MTC โชว์ไตรมาส 2/65 พอร์ตสินเชื่อโตแรง 34%

10 ส.ค. 2565 | 09:31 น.

MTC เปิดผลงาน Q2/65 กำไรนิวไฮพุ่งแตะ 1,381 ล้านบาท ผลจากพอร์ตสินเชื่อโตแรงกว่า 34% ลุยขยายสาขา ดันฐานลูกค้าเพิ่มมั่นใจปีนี้พอร์ตสินเชื่อทะลุเป้า 1.2 แสนล้านบาท

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)หรือ MTC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ทำสถิติ New High อีกครั้ง โดยบริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 23.84 % 

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,381 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8.74% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดสินเชื่อคงค้างที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง  โดยมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างกว่า 107,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.54% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็นจำนวน 676 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขา 6,475 สาขา กระจายทั่วประเทศ

 

"แม้จะเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ แต่เรายังสามารถรักษาการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อไว้ได้ในระดับ 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากได้มีการวางแผนและกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เพื่อขยายฐานลูกค้า รองรับดีมานด์ลูกค้าที่มีจำนวนมากทั่วประเทศ”นายชูชาติกล่าว

ขณะที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยมีนโยบายเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง และมีการเปิดภาคเรียนตามปกติ รวมถึงดีมานด์สินเชื่อเกษตรปรับเพิ่มตามราคาพืชผลการเกษตรที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อเติบโตได้เป็นอย่างดี

 

 สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้  บริษัทฯยังคงตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อพุ่งแตะระดับ 120,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักคือ เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) และธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่ คือ เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) และเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ (MTPL) เป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนโดยมีการวางแผนการทำตลาดทั้งลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดี และการรุกขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการใช้บริการผ่านการดำเนินงานของสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ

 

ขณะเดียวกัน บริษัทได้เดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6,475 สาขา จากเป้าหมายการเปิดสาขาปี 2565 อยู่ที่ 6,500 สาขา ซึ่งมีโอกาสจะขยายสาขาได้มากกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯที่มีจำนวนสาขา และลูกค้ามากที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้สามารถบริการแก่ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อได้อย่างทั่วถึงและกระจายในวงกว้างมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม