ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังระหว่างวันแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 15 ปี 9 เดือนที่ 36.949 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ เนื่องจากความแตกต่างของจังหวะการคุมเข้มนโยบายการเงินระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังจะเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ภาพรวมของสกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลง (นำโดยเงินรูเปียห์ ซึ่งอ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม) ท่ามกลางความกังวลต่อสัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดในจีน ซึ่งกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลง
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,703.24 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น net outflow ออกจากตลาดพันธบัตร 697 ล้านบาท (ขายสุทธิ 218 ล้านบาท ขณะที่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 479 ล้านบาท)
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -21.41 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -18.24 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 36.70-37.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์เงินทุนต่างชาติ และข้อมูล PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเบื้องต้นสำหรับเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ อังกฤษ และอียู