ราคาบิตคอยน์ ดิ่งหนัก 6.41% ล่าสุดอยู่ที่ 671,000 บาท

30 มิ.ย. 2565 | 23:15 น.

ราคาบิตคอยน์ วันนี้ (1 ก.ค.) ล่าสุดเช้านี้ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม ร่วงแรง 6.41% เคลื่อนไหวที่ 18,918.7 ดอลลาร์ หรือมูลค่าราว 671,000 บาท ตามเวลาเมื่อ 06.03 น.

การเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์ วันนี้ ( 1 ก.ค.65) เช้านี้ปรับลดลง 6.41% อยู่ที่ระดับ 18,918.7 ดอลลาร์ หรือมูลค่าราว 671,000 บาท ตามเวลาล่าสุดเมื่อ 06.03 น.

 

ทั้งนี้ราคาบิตคอยน์ดิ่งลงรุนแรง เป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย หลังจากที่หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1/65 ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยัน (29 มิ.ย.)ว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็ตาม

ด้านบริษัทแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ โค หรือพิมโค ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ระบุเตือนว่า สหรัฐอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ยุโรปมีแนวโน้มเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าสหรัฐ
         

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้รับผลกระทบจากการที่เซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการให้บริการด้านการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นชั่วคราว เนื่องจากตลาดประสบความผันผวนอย่างหนัก
         

ทางด้านบริษัททรี แอโรว์ส แคปิตอล (Three Arrows Capital หรือ 3AC) ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสิงคโปร์ที่เน้นลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้มูลค่ากว่า 670 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ บริษัทวอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลยืนยันว่า 3AC ไม่สามารถชำระคืนเงินกู้จำนวน 350 ล้านดอลลาร์ในรูป USD Coin (USDC) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ตรึงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐ และเงินกู้ในรูปเหรียญบิตคอยน์จำนวน 15,250 เหรียญ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าในขณะนี้ประมาณ 323 ล้านดอลลาร์
         

3AC ประสบปัญหาการเงินจนไม่สามารถชำระหนี้ หลังจากตลาดคริปโทฯ เผชิญภาวะผันผวนอย่างหนักเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลลดลงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์ โดยขณะนี้มูลค่ารวมของตลาดคริปโทฯ อยู่ที่ 9.50 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเคยทำไว้ในเดือนพ.ย.2564