บอร์ด NCL ไฟเขียวออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุ 2 ปี

24 มิ.ย. 2565 | 11:18 น.

บอร์ด NCL ไฟเขียว ออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุ 2 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 7% รองรับการขยายธุรกิจ เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินกิจการ พร้อมเพิ่มทุนบริษัทย่อยเป็น 10 ล้านบาท มั่นใจรายได้ในปีนี้มีโอกาสทำ New High

นายพงษ์เทพ วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด(มหาชน) หรือ NCL ผู้ให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์ ครบวงจร (Logistics Solution Provider) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัทฯอนุมัติออกหุ้นกู้ จำนวนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท หรือเงินสกุลต่างประเทศในวงเงินเทียบเท่าเงินบาทจำนวนดังกล่าว

บอร์ด NCL ไฟเขียวออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุ 2 ปี

ประเภทของหุ้นกู้ ยอาจเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือไม่ด้อยสิทธิชนิดทยอยคืนเงินต้นหรือคืนเงินต้นครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน มีประกันหรือไม่มีประกัน มีหรือไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออกและเสนอขายหุ้นกู้นั้นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ

“บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นกู้ในประเทศหรือต่างประเทศให้กับประชาชนและหรือผู้ลงทุนสถาบันและหรือผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือเป็นการทั่วไป และจะออกและเสนอขายคราวเดียวเต็มจำนวนหรือหลายคราวก็ได้ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยประมาณ 7%ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ไม่มีหลักประกัน โดยบริษัทฯจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้”นายพงษ์เทพกล่าว

 

นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 บอร์ดอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย ล่าสุดได้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจากเดิมเป็น 10 ล้านบาท มีจํานวนหุ้น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้น หุ้นละ 100 บาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จํากัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% เพื่อประกอบธุรกิจจัดซื้อ จัดหาและธุรกิจ Fulfillment รองรับการขยายธุรกิจและเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้มีศักยภาพเหมาะสมกับการดําเนินธุรกิจในอนาคต

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงคาดว่ารายได้ในปีนี้มีโอกาสทำ New High หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปี 2564 ที่ทำได้ 1,923.89 ล้านบาทหลังธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศเติบโตโดดเด่น เพราะได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายและมีการผ่อนคลายในหลายๆ มาตรการ ส่งผลให้เศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศดีขึ้น