NCL ออก PP 18 ล้านหุ้น ให้ “ละออ ตั้งคารวคุณ”

28 ก.ค. 2564 | 12:49 น.

บอร์ด NCL ไฟเขียว เพิ่มทุน 11.25 ล้านบาท ออก PP 45 ล้านหุ้น ดึงกลุ่มทุนไต้หวันร่วมพันธมิตรใหม่ พร้อมจัดสรร 18 ล้านหุ้น ให้ “ละออ ตั้งคารวคุณ” ดึง“พงษ์เทพ วิชัยกุล” อดีตมือดี “สามารถคอร์ปอเรชั่น” นั่งรองซีอีโอ เสริมทัพธุรกิจ

นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL   เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัท อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีก 11.25 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นสามัญ  45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 113.54 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่  124.79 ล้านบาท

กิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)

 

สำหรับหุ้นสามัญเพิ่มทุน  45 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)  ในราคาหุ้นละ 3.30 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 148.5 ล้านบาท  โดย  15 ล้านหุ้น เสนอขายให้ บริษัท ไท่เว่ ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  18 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับนางละออ ตั้งคารวคุณ  6 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับนายวิชัย ด่านรัตน  และ 6 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับ นางนธีรา บริรักษ์คูเจริญ

คณะกรรมการบริษัทฯยังแต่งตั้ง นายพงษ์เทพ วิชัยกุล ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อร่วมขับเคลื่อนให้ธุรกิจขององค์กรเติบโตอย่างมีศักยภาพและสามารถหาธุรกิจที่มีคุณภาพ มาช่วยเสริมธุรกิจของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

พงษ์เทพ วิชัยกุล  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NCL

 

“ผมมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ ความสามารถที่มีจะขับเคลื่อนให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถหาธุรกิจที่มีคุณภาพ มาช่วยเสริมธุรกิจของ NCL ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตรวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต”นายกิตติกล่าว

นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติในการขยายโครงสร้างธุรกิจ โดยจะขยายธุรกิจด้าน Non-Logistic เพื่อเพิ่มช่องทางในการเพิ่มผลประกอบการให้กับบริษัท จากเดิมบริษัทดำเนินธุรกิจหลักในการให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร และ ผลิตและจำหน่ายน้ำยาฟอกเลือดผู้ป่วยโรคไตฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาความเป็นไปได้

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้  เพื่อขยายธุรกิจหลัก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นตามแผนการลงทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อย ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรและมีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงลดภาระการกู้ยืมเงินจากถาบันการเงิน เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจหรือขยายกิจการ

 

“บอร์ดเห็นว่า การขาย PP ครั้งนี้ เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะการเงินและมีสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งกลุ่มที่ขาย  PP ให้นั้นเป็นนักลงทุนที่มีศักยภาพด้านการเงิน มีความเหมาะสม และจะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ  อันจะนำมาเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นต่อไป “นายกิตติกล่าว