ปตท.ปรับแผนลงทุนปี 65 อัดงบเท่าตัว เน้นลงทุนบริษัทที่ถือหุ้น100 ธุรกิจใหม่

16 มิ.ย. 2565 | 23:33 น.

บอร์ดปตท. ปรับแผนลงทุนปี 65 เพิ่มงบเท่าตัว เป็น 9.1หมื่นล้าน เน้นลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% และกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน รวมกว่า 5.6 หมื่นล้าน โดยขยายการลงทุนในโรงงานผลิตรถอีวี และธุรกิจยา

นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่16 มิถุนายน 2565 ได้ทบทวนแผนการลงทุนของ ปตท. และบริษัท ปตท. ถือหุ้น100% และอนุมัติให้ปรับแผนการลงทุนสำหรับปี 2565 จาก 46,589 ล้านบาท เพิ่มเป็น 91,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44, 590 ล้านบาท  รายละเอียดดังนี้

  • ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ งบลงทุนเดิม 13,232 ล้านบาท ลดลงเหลือ 11,186 ล้านบาท ลดลง 2,046 ล้านบาท
  • ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ งบลงทุนเดิม 9,305 ล้านบาท ปรับเหลือ 7,538 ล้านบาท ลดลง 1,767 ล้านบาท
  • ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและปิโตรเลียมขั้นปลายเดิม1,180 ล้านบาท เป็น 1,258 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท
  • ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ 3,862 ล้านบาท ปรับเป็น 14,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,903 ล้านบาท
  • การลงทุนในบริษัทที่ปตท.ถือหุ้น100% งบลงทุนเดิม 19,010 ล้านบาท เพิ่มเป็น 56,432 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 37,422 ล้านบาท

 

โดยการทบทวนแผนการลงทุนดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% และกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน โดยหลักมาจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจ LNG

 

รวมถึงการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด ("Horizon Plus") และการลงทุนในธุรกิจ ด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life science : ธุรกิจยา Nutrition และอุปกรณ์และการวินิจฉัยทางการแพทย์) ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจยาที่มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษทั Lotus Pharmaceutical Company Limited

 

ขณะที่การลงทุนในโครงการอื่นๆยังคงเป็นไปตามแผนการลงทุนเดิม อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซ ธรรมชาติหน่วยที่ 1 และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5

 

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนผ่านบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น100% อาทิ การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่าย LNG แห่งที่ 2 (หนองแฟบ) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3