บอร์ดสลากฯ เตรียมเคาะ เพิ่มจำนวน “สลากดิจิทัล” 23 มิ.ย.65

06 มิ.ย. 2565 | 08:39 น.

บอร์ดสลากฯ เตรียมพิจารณาเพิ่ม “สลากดิจิทัล” หลังเปิดขายงวดแรกกระแสตอบรับดีเกินคาด ขายหมดเกลี้ยง 5.17 ล้านใบภายใน 4 วัน พร้อมยืนยันสลากทุกใบที่ขายบนแอปฯ เป๋าตังเป็นของผู้ค้ารายย่อยที่สมัครใจฝากขายเอง ชี้เตรียมเพิ่มฟีเจอร์เสียงรองรับผู้ค้าพิการ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา กล่าวถึงความคืบหน้าการจำหน่าย “สลากดิจิทัล” บนแอปฯ เป๋าตัง ว่า ล่าสุด ณ เวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. 65 สามารถจำหน่ายได้หมดครบทั้ง 5,173,500 ใบ จากจำนวนผู้ค้ารายย่อยในระบบจำนวนกว่า 1 หมื่นราย

 

โดยมีผู้สนใจเข้ามาซื้อสลากกว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นการจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว โดบระบบแอปฯ เป๋าตัง สามารถรองรับจำนวนผู้เข้ามาซื้อสลากได้ครั้งละกว่าหลายแสนคน และสามารถเลือกเลขได้ โดยไม่พบการติดขัดของระบบ

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่าหลังจากนี้ สนง.สลากฯ จะมีการประเมินระบบตรวจรางวัลในวันที่ 16 มิ.ย. 65 และระบบการโอนเงินรางวัล ว่าจะมีความราบรื่นเช่นเดียวกับการขายสลากหรือไม่ หลังจากนั้น จะนำผลการประเมินเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ดสลากฯ วันที่ 23 มิ.ย.65 ซึ่งจะทำให้รู้ชัดเจนว่าจะมีการเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลจำนวนเท่าไหร่

 

ดังนั้นสลากฯ ที่จะจำหน่ายวันที่ 17 มิ.ย.65 ซึ่งเป็นของงวดวันที่ 1 ก.ค.65 ยังคงจำหน่ายจำนวนเท่าเดิมที่ 5,173,500 ใบ และหากบอร์ดสลากฯ ซึ่งจะประชุมในวันที่ 23 มิ.ย. 65 มีการเคาะจำนวนเพิ่มแน่ชัด ก็จะเริ่มขายสลากดิจิทัลตามจำนวนที่เพิ่มใหม่ ของงวดวันที่ 16 ก.ค. 65 ซึ่งจะเริ่มขายวันแรกวันที่ 2 ก.ค.65

“สลากที่เปิดขายบนแอปฯ เป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มที่เป็น ซุปเปอร์แอปฯ และเป็นสลากฯ ที่ผู้ค้ารายย่อยนำมาฝากขาย ซึ่งสลากฯบนแพลตฟอร์มทุกใบจะมีชื่อของผู้ค้าสลากฯที่เป็นเจ้าของโควตากำกับอยู่

 

ดังนั้นสลากฯทุกใบเป็นของรายย่อย และยอดขายที่เกิดขึ้นในแต่ละวันจะมีการโอนให้ผู้ค้าทันที โดยที่ สนง.สลากฯ ไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมใดๆ และอนาคตเมื่อผู้ค้าเห็นประโยชน์ของการขายสลากดิจิทัล ก็เชื่อว่าจะมีการนำสลากฯ มาฝากขายเพิ่มขึ้น ยืนยัน สนง.สลากไม่ได้แข่งขันกับใคร” นายลวรณ กล่าว

 

นายลวรณ ยังกล่าวถึงการรับเงินรางวัลสำหรับผู้ถูกสลากดิจิทัล จะเสียค่าอากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมเท่ากับสลากฯแบบใบ โดยหากถูกสลากดิจิทัลจะต้องผูกบัญชีกับธนาคารกรุงไทย ซึ่งเงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีภายใน 12 ชม. โดยจะโดนหักค่าธรรมเนียม 1% บวกค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือมารับเงินรางวัลที่ สนง.สลากโดยเสียเพียงค่าอากรแสตมป์ 0.5% เท่านั้น

 

ทั้งนี้หากเป็นรางวัลที่ 1 จะต้องมาขึ้นรางวัลที่ สนง.สลากฯ เท่านั้น โดยจะเสียค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือ 30,000 บาท ต่อสลากฯ 1 ใบ ไม่ใช่ 1.5% หรือ 90,000 บาท ตามที่มีกระแสโจมตี 

 

นายลวรณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ระบบจำหน่ายสลากดิจิทัล บนแอปฯ เป๋าตัง ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง โดยในอนาคตจะมีการเพิ่มปุ่มลดราคาให้กับผู้ค้า เพื่อให้สามารถพิจารณาปรับลดราคาขายให้ต่ำกว่า 80 บาทได้ หากใกล้วันออกรางวัลแล้วยังจำหน่ายสลากฯไม่หมด รวมทั้งจะเพิ่มฟีเจอร์เสียง เพื่อรองรับการขายของผู้พิการด้วย

 

ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่า สนง.สลากฯ มีการไปไล่จับผู้ค้าสลากฯ ที่นำไปฝากขายบนแพลต์ฟอร์มออนไลน์อื่น เพื่อนำมาขายบนแอปเป๋าตังเองนั้น

 

ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งในการยึดสลากฯ หรือตัดโควตาผู้ค้าที่นำสลากไปขายบนแพลตฟอร์มอื่นนั้น สนง.สลากจะยึดโควตาคืน เฉพาะกรณีตรวจสอบแล้วพบว่ามีการนำไปขายบนแพลตฟอร์มอื่นแบบยกเล่ม ซึ่งถือว่าทำผิดกติกาของ สนง.สลากฯ อย่างชัดเจน ที่ระบุว่าผู้มีโควตาสลากฯ จะต้องนำไปจำหน่ายปลีกเท่านั้น

 

ซึ่งโควตาสลากที่ยึดคืนมานั้น เป็นของผู้ค้ารายย่อยที่กระทำผิด ดังนั้นสลากที่ยึดมาก็จะกลับเข้าสู่ระบบการจองซื้อเหมือนเดิม เพื่อให้ผู้ค้ารายอื่นในระบบได้ทำการจองซื้อเพื่อนำไปขายในแต่ละงวดต่อไป

 

ขณะที่ความคืบหน้าการออกผลิตภัณฑ์สลากฯ รูปแบบใหม่นั้น ในเดือนกรกฎาคม 65 นี้ สนง.สลากจะเดินหน้าทำประชาพิจารย์ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายใน 70 วัน และหลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม 65 จะเสนอ ครม. เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป