GULF ควัก 574 ล้านบาท รุกถือ INTUCH เพิ่มเป็น 44% หลังซื้ออีก 7.43 ล้านหุ้น

05 พ.ค. 2565 | 01:29 น.

กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ใช้เงิน 574 ล้านบาท ซื้อหุ้น INTUCH เพิ่ม 7.43 ล้านหุ้น ช่วงวันที่ 4-8 เม.ย.ที่ผ่านมา ขยับถือครองหุ้นรวม 1,411 ล้านหุ้น สัดส่วน 44% เพิ่มจาก 42.52% หนุนผลประกอบการปี 65 สดใส จากการบันทึกส่วนแบ่งกำไร และรับปันผล INTUCH เพิ่มขึ้น

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ( GULF) รองประธานคณะกรรมการ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH)  รายงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ได้ซื้อหุ้น INTUCH เพิ่มขึ้นจำนวน 7,425,200 หุ้น ใช้เงินลงทุนรวม 574.02 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่หุ้นละ 77.31 บาท ส่วนใหญ่เป็นการทำรายการผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ โดยเป็นการซื้อ

  • วันที่ 4 เม.ย.2565 จำนวน 2,119,100 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.76 บาท เป็นจำนวนเงิน 164,781,216 บาท 
  • วันที่ 5 เม.ย.2565 จำนวน 687,500 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.84 บาท  เป็นจำนวนเงิน 53,515,000 บาท 
  • วันที่ 7 เม.ย.2565 จำนวน 2,219,500 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.41 บาท เป็นจำนวนเงิน171,811,495 บาท 
  • วันที่ 8 เม.ย.2565 จำนวน 2,399,100 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้น 76.66 บาท เป็นจำนวนเงิน 183,915,006 บาท 

 

รายงานระบุว่า การซื้อหุ้นเพิ่มครั้งนี้ ทำให้ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ถือหุ้นใน INTUCH ทั้งหมด 1,411,457,852 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 44.02% ของหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 3,206,598,547 หุ้น เพิ่มขึ้นจากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด ณ วันที่ 24 ก.พ.2565 ซึ่ง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ถืออยู่จำนวน 1,122.38 ล้านหุ้น สัดส่วน 35.00% และ GULF ENERGY DEVELOPMENT PCL ถือจำนวน 241.05 ล้านหุ้น สัดส่วน  7.52% รวมประมาณ 42.52% ขณะที่ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD.ถือหุ้นเป็นอันดับสองจำนวน 680.17 ล้านหุ้น สัดส่วน 21.21%

10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ INTUCH  ณ วันที่ 24 ก.พ.2565 

 

GULF ควัก 574 ล้านบาท รุกถือ INTUCH เพิ่มเป็น  44% หลังซื้ออีก 7.43 ล้านหุ้น

 

แนวโน้มกำไรของ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF จะดีขึ้นในปี 2565 หลังเข้ามาถือหุ้น INTUCH เพิ่มขึ้นเป็น 44% และการดำเนินงานของ INTUCH ก็ดีขึ้นด้วย ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ. แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) สัดส่วน 40.44% และบมจ.ไทยคม (THCOM) สัดส่วน 41.13% โดย ADVANC ได้ร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ฝ่ายละ 50% ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Lending) ขณะที่ GULF ก็มีธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ ธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และการเข้าลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลของ Binance รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

 

อนึ่งผลดำเนินงานของ GULF ในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 52,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.4% จากปี 2563  มีกำไรสุทธิ 7,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 79.% ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ที่มาจาก INTUCH เป็นวงเงินถึง 3,454 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากเงินปันผล INTUCH  จำนวน 2,349 ล้านบาท ( INTUCH จ่ายปันผลหุ้นละ 2.83 บาท ) และมาจากรายได้ส่วนแบ่งกำไร(ขาดทุน) จากบริษัทร่วม INTUCH อีก 1,105 ล้านบาท 

 

สำหรับราคาซื้อขายหุ้น INTUCH ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.65 ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 0.75 บาทหรือ -1.07% ส่วน GULFปิดที่ 48.25 บาทลดลง 0.50 บาทหรือ-1.03%