รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย หรือ KSecurities ระบุว่า หากนักลงทุนที่ต้องการสร้างกระแสรายได้สม่ำเสมอ ต้องการ เงินปันผล จากการลงทุนมาใช้สอยในชีวิตประจำวัน อาจเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายการจ่ายปันผล ซึ่งเงินปันผลที่ได้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุน จำนวนเงินต้นที่ลงทุนและสินทรัพย์ที่กองทุนนั้นไปลงทุนเช่นกัน
ความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นไทยที่มีการจ่ายปันผล
- หุ้นไทยที่มีพื้นฐานดี มีกระแสเงินสดในบริษัทเพียงพอจะจ่ายเงินปันผลเป็นอีกกลุ่มที่อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนักท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างดีหากเทียบกับตลาดอื่นทั่วโลก
- คาดว่าเศรษฐกิจไทย ปีนี้จะกลับมาขยายตัวดีด้วยแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและข่าวดีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
- TISCODS: กองทุนเปิด ทิสโก้ ดิวิเดนด์ ซีเล็ค อิควิตี้ มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ที่มีการจ่ายปันผลอย่าง สม่ำเสมอและมีแนวโน้มการจ่ายปันผลดี มีความมั่นคง มีแนวโน้มการเติบโตธุรกิจ
- ผลตอบแทน 12 เดือน 27.63%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 11.01%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 7.25%
- ONE-SETHD: กองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน มีนโยบาย ลงทุนในหุ้นไทยที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูง เพื่อลด การพึ่งพาผลตอบแทนจากราคาหุ้นในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวนกองทุนจะพิจารณา
- ผลตอบแทน 12 เดือน 4.58%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 9.62%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 5.19%
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ได้รับเงินปันผลกองทุน สามารถเลือกจัดการเรื่องภาษีที่เป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 2 แบบคือ
- เลือกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% จากเงินปันผลอัตโนมัติ แล้วไม่ต้องนำเงินส่วนนี้ไปยื่นภาษี
- หากเลือกไม่ให้หักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ผู้ลงทุนต้องนำเงินปันผลมาคำนวณรวมกับการยื่นภาษีด้วย