การซื้อขายหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 7-11 มีนาคม 2565) ดัชนี SET ( SET Index ) ปิดเมื่อวันศุกร์ (11 มี.ค.) ที่ระดับ 1,658.01 จุด ลดลง 0.82% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายรวม 571,458.65 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 114,291.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.60% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ร่วงลง 1.97% มาปิดที่ 618.54 จุด
มูลค่าการซื้อขายแยกตามกลุ่มผู้ลงทุน มีดังนี้
- นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 675.96 ล้านบาท ( มูลค่าสะสตั้งแต่ต้นปี 65 ซื้อสุทธิ 84,132.15 ล้านบาท )
- นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 328.58 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 65 ขายสุทธิ 69,082.26 ล้านบาท )
- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 6,180.14 ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 65 ซื้อสุทธิ 894.69 ล้านบาท )
- นักลงทุนรายย่อยในประเทศซื้อสุทธิ 5,832.78 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปี 65 ขายสุทธิ 15,944.58 ล้านบาท )
ขณะที่การซื้อขายผ่านบัญชี“เอ็นวีดีอาร์” (NVDR) ของนักลงทุนต่างประเทศในการซื้อหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 มีนาคม 2565 พบว่า
10 อันดับหุ้นไทยที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุด ได้แก่
- TTA มูลค่าซื้อสุทธิ 474.16 ล้านบาท
- TOP มูลค่าซื้อสุทธิ 355.33 ล้านบาท
- SCGP มูลค่าซื้อสุทธิ 302.61 ล้านบาท
- BBL มูลค่าซื้อสุทธิ 184.17 ล้านบาท
- ADVANC มูลค่าซื้อสุทธิ 164.69 ล้านบาท
- OR มูลค่าซื้อสุทธิ 162.15 ล้านบาท
- CPALL มูลค่าซื้อสุทธิ 143.82 ล้านบาท
- BCH มูลค่าซื้อสุทธิ 136.33 ล้านบาท
- GULF มูลค่าซื้อสุทธิ 131.20 ล้านบาท
- EA มูลค่าซื้อสุทธิ 96.33 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว รายงานการเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ณ วันที่ 11 มีนาคม 2565 ปิดการซื้อขายอยู่ที่ 11.70 บาท บวก 1.60 บาท หรือ 15.84%
โดยราคาหุ้น TTA ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 11.60 บาท เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 คาดนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังดัชนีค่าระวางเรือ BDI ( Baltic Dry Index ) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 5 วันติด โดยล่าสุดปรับตัวขึ้น 146 จุด หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 5.71% สู่ระดับ 2,704 จุดทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน
10 อันดับหุ้นไทยที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสูงสุด ได้แก่
- SCB มูลค่าขายสุทธิ 220.11 ล้านบาท
- IVL มูลค่าขายสุทธิ 181.40 ล้านบาท
- BDMS มูลค่าขายสุทธิ 131.71 ล้านบาท
- BANPU มูลค่าขายสุทธิ 121.42 ล้านบาท
- PTTGC มูลค่าขายสุทธิ 112.52 ล้านบาท
- OSP มูลค่าขายสุทธิ 110.51 ล้านบาท
- TISCO มูลค่าขายสุทธิ 104.42 ล้านบาท
- KBANK มูลค่าขายสุทธิ 71.06 ล้านบาท
- GLOBAL มูลค่าขายสุทธิ 62.84 ล้านบาท
- EGCO มูลค่าขายสุทธิ 59.15 ล้านบาท