บลจ.ไทยพาณิชย์ควัก 3 พันล้าน ปันผลกองอสังหาฯ– โครงสร้างพื้นฐาน

02 ธ.ค. 2564 | 10:21 น.

บลจ.ไทยพาณิชย์ เดินหน้าจ่ายปันผล กองสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน ไตรมาส 3/64 รวมกว่า 3,000 ล้านบาท มองกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องแม้ตลาดยังคงผันผวน

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารงานไตรมาสที่ 3/2564 จากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2564 และ/หรือกำไรสะสม  5 กองทุน และจ่ายลดทุนจำนวน 1 กองทุน กำหนดจ่ายพร้อมกันในวันที่ 3 ธ.ค. 2564 นี้ ประกอบด้วย 

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด

 

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่า  3 กองทุนคือ  กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์ม ออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0511 บาทต่อหน่วย เป็นครั้งที่ 29 รวมจ่ายเงินปันผล 3.8092 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่จัดตั้งเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2557)

 

กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์ม ออฟฟิศ (POPF) ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2470 บาทต่อหน่วย เป็นครั้งที่ 42 รวมจ่ายเงินปันผล 10.7198 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่จัดตั้งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2554)

บลจ.ไทยพาณิชย์ควัก 3 พันล้าน ปันผลกองอสังหาฯ– โครงสร้างพื้นฐาน

กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ลงทุนในสิทธิการเช่าของอาคารสำนักงานให้เช่าบริเวณเขตปทุมวัน จ่ายปันผลในอัตรา 0.2400 บาทต่อหน่วย เป็นครั้งที่ 36 รวมจ่ายเงินปันผล 8.2776 (นับตั้งแต่จัดตั้งเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2555)

นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า  1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณเขตพื้นที่ EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) โดยไตรมาส 3 นี้กองทุนยังคงมีผลประกอบการที่มั่นคงต่อเนื่อง

 

อีกทั้งราคาของหุ้นของกองทุนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สำหรับครั้งนี้กำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.1750 บาท/หน่วย เป็นครั้งที่ 29 รวมจ่ายเงินปันผล 5.4345 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่จัดตั้งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2557)

 

กองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ลงทุนในทรัพย์สินด้านโทรคมนาคม โดยรายได้หลักของกองทุนมาจากสัญญาให้เช่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคม และสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) ระยะยาว กับกลุ่มบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งทางกองทุนได้รับค่าเช่าครบถ้วนและต่อเนื่องมาตลอด

 

ส่งผลให้มีผลประกอบการที่ดีสม่ำเสมอ เห็นได้จากการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ 0.2610 บาทต่อหน่วย ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 8 ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่คาดการณ์ไว้ โดยกองทุนมีการทยอยจ่ายคืนเงินต้นเพื่อลดภาระผูกพันตามสัญญาเงินกู้เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/2563 ซึ่งการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 31 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 7.6941 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่จัดตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2556)

 

พร้อมกันนี้ได้จ่ายเงินลดทุน  1 กองทุน เป็นกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา ซึ่งกองทุนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกวางต่อธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างมากในปี 2564

 

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/2564 กองทุนยังคงได้รับค่าเช่าคงที่จากผู้เช่าเหมาทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าและประกาศจ่ายเงินลดทุนที่ 0.0823 บาทต่อหน่วย เพื่อเป็นการจ่ายคืนสภาพคล่องส่วนเกินจากกรณีจากกรณีที่กองทุนยังคงมีขาดทุนสะสมที่เกิดจากการลดลงของการสอบทานการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ได้มีกระแสเงินสดจ่ายออกไปจริง