SABUY มุ่งสู่การเป็น “เทคโนโลยีไฟแนนซ์เชียล”

22 ต.ค. 2564 | 13:25 น.

SABUY ตั้งเป้าสู่ “เทคโนโลยีไฟแนนซ์เชียล” หวังสนับสนุนการสร้างรายได้ 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมคาดในปีนี้รายได้เติบโตที่ 25% และปีหน้าเติบโต 140% เผยคืบหน้าอีก 2 สัปดาห์ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย และอยู่ระหว่างขอไลเซ่นส์สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์และพิโกไฟแนนซ์

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY) เปิดเผยในงานสัมมนา “หุ้นปลอดภัย ฝ่าภัยโควิด” หัวข้อ “หุ้นเด็ดพิชิตตลาด” จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า บริษัทตั้งป้าสู่การเป็น “เทคโนโลยีไฟแนนซ์เชียล” เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ 3-5 ปีข้างหน้าให้มีการเติบโตที่สูง และระบบนิเวศทางธุรกิจ (อีโคซิสเต็ม) จะครบในกลางปี 2565 โดยเฉพาะการสร้างประสิทธิภาพในเรื่องของการชำระเงิน (เพย์เม้นท์) รวมถึงนำฐานข้อมูล (ดาต้า) มาวิเคราะห์เพื่อสนับสนุนการนำเสนอสินค้าและบริการ และพิจารณาการให้วงเงินในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งนี้ บริษัทพร้อมร่วมกับสถาบันการเงินในผลักดันตลาดสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์และพิโกไฟแนนซ์ จากที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อให้ทุกคนเข้ามาในแฟลตฟอร์มนี้ ด้านคู่ค้าทางธุรกิจต้องมีความสามารถในการแข่งขันด้วย เพราะบริษัทดำเนินธุรกิจด้วยการนำเทคโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุน ช่วยให้ทำราคาได้ดี แข่งขันได้ อีกทั้งมีระบบเพย์เม้นท์รองรับลดการใช้เงินสด คาดว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเห็นภาพการเป็นฟินเทคคอมพานีชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มธุรกิจไฟแนนซ์ซึ่งจะเป็นธุรกิจในอนาคต และสามารถสร้างรายได้เติบโตต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าในการเข้าลงทุนธุรกิจไฟแนนซ์ 2 บริษัทใหม่นั้น คาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์และพิโกไฟแนนซ์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ ในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ 25% และปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 140% ส่วนของกำไรคาดว่ายังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการลดขั้นตอนการทำงาน รวมถึงนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงาน ซึ่งสะท้อนในงบการเงินของไตรมาสที่ผ่านมาแล้ว และยังเน้นความยั่งยืนของธุรกิจและธรรมาภิบาลอย่างต่อเนื่อง