ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเก็ง "ไบเดน" ชนะเลือกตั้งสหรัฐ

03 พ.ย. 2563 | 14:22 น.

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 400 จุด เก็ง "ไบเดน" คว้าชัย เดโมแครตครองคองเกรส

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ จากคาดการณ์ที่ว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะคว้าชัยชนะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ขณะที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรสทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 423 จุด ตลาดจับตาผลเลือกตั้งสหรัฐ

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐ

หุ้นไทยปิดบวก 19.17 จุด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนบวก ขานรับภาคการผลิตจีนขยายตัว

 

 ณ เวลา 18.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 402 จุด หรือ 1.5% สู่ระดับ 27,198 จุด

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากพรรคเดโมแครตประสบชัยชนะครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งวันนี้ โดยสามารถครองทำเนียบขาว รวมทั้งกวาดที่นั่งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะส่งผลดีที่สุดต่อตลาดหุ้น

 

ในวันนี้ นอกจากชาวสหรัฐที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว พวกเขายังจะทำการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาจำนวน 435 คน และเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งหมด หรือจำนวน 33 คน จากทั้งหมด 100 คน โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นทุก 4 ปี และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะมีขึ้นทุก 2 ปี

 

หากกระแส "Blue Wave" มาตามคาด ซึ่งจะทำให้นายไบเดนคว้าชัยชนะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ และทำให้พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้พรรคเดโมแครตสามารถขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้อย่างราบรื่น หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

         

"หากไบเดนชนะขาด และเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร นี่จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตลาดหุ้น โดยจะเปิดทางให้สหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19" นายลุคแมน โอทูนูกา นักวิเคราะห์อาวุโสจาก FXTM กล่าว

  "แต่ถ้าหากไบเดนชนะ และรีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ก็จะลดโอกาสที่สหรัฐจะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และจะไม่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก" นายโอทูนูกากล่าว

 

นายโอทูนูกายังกล่าวว่า สำหรับในกรณีที่ปธน.ทรัมป์คว้าชัยชนะ และดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ก็จะส่งผลกระทบต่อแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การที่สหรัฐยังคงมีการสานต่อนโยบายก็จะช่วยหนุนตลาดหุ้นในระยะกลาง

 

ทางด้านนายพอล แซนฮู นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นในตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเก็งว่า นายไบเดนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งจะช่วยผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19