ลดภาษียาเส้นเหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม

16 ต.ค. 2562 | 05:57 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

สรรพสามิตเผย ลดลดภาษียาเส้น 1 ปี เหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม จากเดิม 10 สตางค์ต่อกรัม หวังช่วยบรรเทาเดือดร้อนเกษตรกร-ผู้ผลิตรายย่อย รับ ทำรายได้ภาษีหาย 600 ล้านบาท ส่งผลราคายาเส้นลดลงเหลือถุงละ 10.30 บาท

นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี  ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า กรมฯได้ออกกฎกระทรวงการปรับลดอัตราภาษียาเส้นเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2563 จากที่จัดเก็บในอัตรา 10 สตางค์ต่อกรัมเหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม สำหรับผู้ผลิตรายย่อยและเกษตรกรผู้เพาะปลูก หั่นและจำหน่าย ที่มีปริมาณการผลิตไม่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี ส่วนยาเส้นที่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปีให้เสียภาษีในอัตรา 10 สตางค์ต่อกรัมเช่นเดิม เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2563 พร้อมกับยกเว้นการจัดเก็บภาษีดังกล่าวให้กับผู้ค้าที่ผลิตวัตถุดิบประเภทใบยาตากแห้ง แต่ยังไม่แปรรูปหรือหั่นใบ เพื่อส่งให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสูบรวมถึงโรงงานยาสูบด้วย

ลดภาษียาเส้นเหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม

ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราภาษียาเส้นในรอบที่ผ่านมา จากก่อนหน้านี้ที่จัดเก็บในอัตรา 0.5 สตางค์กรัม มาเป็น 10 สตางค์ต่อกรัม ซึ่งจากฐานข้อมูลการชำระภาษียาเส้นปีงบประมาณ 2562 พบจำนวนผู้ผลิตยาเส้นที่เป็นผู้ผลิตรายย่อยและเกษตรกรที่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี เพียง 15 รายเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจังหวัดหนองคาย เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ จากผู้ผลิตทั้งหมด 10,450 ราย โดยเชื่อว่าการปรับลดภาษีดังกล่าวจะทำให้ผู้ผลิตรายย่อยและเกษตรกรผู้ปลูกยาเส้นมีเวลาในการปรับตัวได้ดีขึ้น

 

 

เราเชื่อว่า จะบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้บ้าง ซึ่งหลังจากกำหนดระยะเวลา 1 ปี เราก็จะมาพิจารณาอีกที ว่าควรจะปรับลดในอัตรานี้ต่อไปหรือไม่ โดยดูจากความพร้อมของเกษตรกรและความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขด้วย แต่ที่เรายึดกำหนดระยะเวลาปรับลดเพียงแค่ 1 ปีไว้ก่อน เพราะจะได้สอดคล้องกับอัตราภาษีบุหรี่ที่ให้เวลาในการปรับขึ้น ทุกอย่างจะได้ล้อกันไปได้เลยทีเดียวนายณัฐกร กล่าว

ลดภาษียาเส้นเหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษียาเส้นในอัตรา10 สตางค์ต่อกรัม ส่งผลให้ราคายาเส้นปรับเพิ่มขึ้นจากถุง 10 กรัม ราคา 10 บาท เป็น 11-12 บาท ดังนั้นหากมีการปรับลดภาษีดังกล่าวจะทำให้ราคายาเส้นปรับลดลงเหลือถุง 10 กรัม ราคา 10.30 บาทเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ กรมสรรพสามิตยอมรับมีความกังวลจะทำให้เกิดความต้องการสูบยาเส้นเพิ่มขึ้น แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วพบว่าการปรับลดภาษีในครั้งนี้สามารถช่วยเกษตรกรรายย่อยให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

 

 

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการปรับลดภาษียาเส้นทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี จากก่อนหน้านี้ที่จัดเก็บได้ปีละ 2,000 ล้านบาท จะเหลือเพียง 1,400 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งกรมไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยรายได้เป็นหลัก แต่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเกษตรกรก่อน

ลดภาษียาเส้นเหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม

ปริมาณยาเส้นที่เสียภาษีในปีงบประมาณ 2561 มีทั้งหมด 14 ล้านกิโลกรัม จัดเก็บภาษีได้ 30 กว่าล้านบาท ขณะที่ปีงบประมาณ 2562 ปริมาณยาเส้นที่เสียภาษีมี 26 ล้านกิโลกรัม รายได้ภาษี 2,000 ล้านบาท ที่ปริมาณยาเส้นที่เสียภาษีเยอะขึ้น เพราะเรารวมปริมาณยาเส้นพันธุ์พื้นเมืองไปด้วย ขณะที่รายได้ที่เพิ่มเพราะเก็บอัตราภาษีเพิ่ม ซึ่งถ้าลดภาษีรอบนี้ลง รายได้ส่วนนี้ก็หายไป 600 ล้านบาทนายณัฐกร กล่าว

ลดภาษียาเส้นเหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม