นายกฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า จากการวิจัยข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทในประเทศไทยกว่า 3.3 ล้านรายการ ครอบคลุมธุรกิจที่จดทะเบียนกว่า 8.8 แสนราย พบว่า ภาคธุรกิจไทยมีกลุ่มทุนจำนวน 9,068 กลุ่ม โดยกลุ่มทุนมีความหลากหลายทั้งจำนวนบริษัทในกลุ่ม มูลค่าสินทรัพย์ และประเภทของอุตสาหกรรม โดยกลุ่มทุนส่วนมากประกอบด้วยบริษัทเพียง 2-3 บริษัท มีเพียง 13 กลุ่มทุนเท่านั้น ที่มีบริษัทในกลุ่มมากกว่า 100 บริษัท สำหรับประเทศไทยอุตสาหกรรมที่กลุ่มทุนมีผลต่อการกระจุกตัวสูงสุด ได้แก่ การผลิตสุรา การผลิตเบียร์ และการค้าส่งเครื่องดื่ม
ทั้งนี้จากการกระจุกตัวของความเป็นเจ้าของมีความสัมพันธ์ต่อการกระจุกตัวของการผลิต การลดความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจโดยนโยบายภาษีเงินได้นิติบุคคล อาจเกิดผลกระทบทางลบต่อการจ้างงานและธุรกิจรายย่อยที่ต้องพึ่งพิงธุรกิจรายใหญ่ นโยบายที่เหมาะสมจึงควรเป็นการส่งเสริมการแข่งขันเพื่อลดกำไรจากการผูกขาดไม่กี่ราย และเพิ่มการกระจายกำไรไปสู่ผู้ผลิตจำนวนหลายรายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นโยบายส่งเสริมผู้เล่นรายใหม่โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องคำนึงถึงมิติด้านความเป็นเจ้าของด้วย โดยต้องส่งเสริมธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นรายใหม่ที่แท้จริง ไม่ใช่ธุรกิจรายใหม่ที่มีเจ้าของรายเดิม