บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุนกอง TINC 2,000 ล้านบาทตอบรับกระแสนักลงทุน

26 ก.ย. 2562 | 05:50 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส หรือ TINC จาก 5,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท ตอบรับกระแสนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก หลังเศรษฐกิจเริ่มชะลอ อัตราดอกเบี้ยขาลง และหุ้นผันผวน หวังให้มืออาชีพช่วยจัดพอร์ต - กระจายสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด  เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้นักวิเคราะห์ทยอยปรับลดอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นทั่วโลกยังคงผันผวน ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียวจึงอาจได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีนัก และในระยะยาวอาจได้ผลตอบแทนไม่เพียงพอกับเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดังนั้นนักลงทุนที่ไม่มีเวลาในการศึกษาการลงทุนจึงยังให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมผสมอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพช่วยจัดพอร์ต และยังสามารถกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซึ่งการกระจายสินทรัพย์การลงทุนที่ดีจะช่วยให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้เองทำให้กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส (TINC) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมจึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อตอบรับความต้องการ และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงได้ขยายมูลค่าโครงการจากเดิม 5,000 ล้านบาทเป็น 7,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุน กองทุน TINC ได้ในทุกวันทำการ มูลค่าลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท 

ในปี 2562 เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้ทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกเปลี่ยนทิศกลับมาเป็นเป็นขาลง นำร่องโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 2 ครั้ง สู่ระดับ 1.75-2.00% จากที่ระดับ 2.25-2.50%  ยุโรปก็ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมาสู่ระดับติดลบ 0.50% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยเช่นเดียวกันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสู่ระดับ 1.50%  ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูง สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ในขณะเดียวกันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำก็ให้ผลตอบแทนน้อยลงตามทิศทางดอกเบี้ย ทำให้ผู้ลงทุนหันมาสนใจกองทุนผสมที่ลงทุนหลากหลายสินทรัพย์มากขึ้น เพราะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ไม่สูงมาก และมีความเสี่ยงหรือมีความผันผวนไม่สูงเท่ากองทุนที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้น 100% แต่สามารถคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว นายสาห์รัชกล่าว

สำหรับสาเหตุที่นักลงทุนให้การตอบรับกองทุนเปิด TINC นั้น นอกจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในหลากสินทรัพย์การลงทุนแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เปิดเสนอขายให้นักลงทุน กองทุนเปิด TINC สามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น จนได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morning Stars (ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 62) เป็นเครื่องยืนยันผลงาน อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิใช่สิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

กองทุนเปิด TINC ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เป็นกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน เงินฝาก รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ กองทุนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตรับความผันผวน เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี กองทุนเปิด TINC อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000