กกร.จับมือรัฐ ตั้งทีมย่อยติดตามเศรษฐกิจ ขณะที่ศูนย์วิจัยเอกชนเศรษฐกิจแห่ปรับลดประมาณการจีดีพีไตรมาส 2 และทั้งปีลง ก่อนสศช.ประกาศจีดีพีไตรมาส 2 19 สิงหาคมนี้
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรก 16 สิงหาคมได้หารือสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 มีโอกาสขยายตัวตํ่ากว่าไตรมาสแรกที่่ขยายตัว 2.8% จากเศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณถดถอยตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมารวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าที่กระทบมายังเศรษฐกิจไทย ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เตรียมประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส2 และแนวโน้มปี 2562 ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ จากก่อนหน้าที่สศช.ปรับลดประมาณการทั้งปีจาก 4.0% เหลือ 3.6%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายก รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมเห็นชอบตั้งคณะทำงานย่อยขึ้นมาอีก 1 ชุด ซึ่งมีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช.เป็นหัวหน้าคณะทำงานภาครัฐที่จะมาร่วมกับภาคเอกชน เพื่อรับมือกับสภาพเศรษฐกิจทั้งโลกและไทยที่อยู่ในภาวะชะลอลงแม้แต่สิงคโปร์ยังหดตัว 3% ขณะที่ภาคส่งออกของไทยติดลบมาต่อเนื่อง
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า ธนาคารประเมินจีดีพีไตรมาส 2 มีโอกาสเติบโตได้ 2.7% และปรับลดจีดีพีทั้งปีจาก 3.3% เหลือ 3.0% เพราะระยะหลังๆ นอกจากภาคส่งออกที่ชะลอตัวแล้วยังเห็นสัญญาณการท่องเที่ยวแผ่วลงด้วย และทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชนต่างชะลอ ประกอบกับมาตรการควบคุมอัตราส่วนสินเชื่อต่อหลักประกัน (LTV) ก็ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนหรือเลื่อนเปิดโครงการและยกเลิกโครงการ
พชรพจน์ นันทรามาศ
“แม้รัฐบาลจะประกันรายได้ภาคเกษตร แต่ภาคอุตสาหกรรมยังจำเป็นต้องช่วยกันหาตลาดใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบการยังต้องระมัดระวังและติดตามความเคลื่อนไหวกระแสเงินสดจากลูกค้าด้วย ที่สำคัญตอนนี้เศรษฐกิจต้องการความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย”
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า มีโอกาสที่จะปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้ลงเหลือตํ่ากว่า 3% จากเดิม 3.2% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 4 ของปีนี้ สาเหตุมาจากเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น ขณะที่สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีทิศทางรุนแรงกว่าคาด ประกอบกับปัจจัยในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งกิจกรรมการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์ในประเทศให้แย่ลงทั้งการลงทุนและการอุปโภคบริโภค
สมประวิณ มันประเสริฐ
“ไตรมาส2 ศูนย์วิจัยกรุงศรี ประเมินจีดีพีเติบโต 2.1% โดยยังมีความกังวลต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการซึ่งมีแรงงานหรือลูกจ้างจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)จะเข้าถึงสภาพคล่องยากขึ้น ดังนั้น ทางการควรจะมีแหล่งเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก”
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า คาดว่าจีดีพีไตรมาส2 ปีนี้ีเติบโต 2.5% หลังปรับปัจจัยฤดูกาลออกจะขยายตัวเพียง 0.9% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1 สะท้อนภาพการชะลอตัวครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นผลจากภาคส่งออกหดตัวและดุลการค้าเกินดุลน้อยลง โดยส่งผ่านการลงทุนและบริโภคไม่เติบโต และการจ้างงานระดับล่างได้รับรายได้ไม่มาก ในแง่ของการจับจ่าย จึงยังพักฟื้นรอเร่งตัว ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นความหวังจากมาตรการกระตุ้นของภาค รัฐ โดยแรงขับเคลื่อนยังคงมาจาก ระดับกลางและระดับบน โดยทั้งปีนี้มองจีดีพีที่ 3.3% แต่มีความเสี่ยงที่จะเติบโตไม่ถึงด้วย
อมรเทพ จาวะลา
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,497 วันที่ 18-21 สิงหาคม 2562