รายย่อยแห่ขายหุ้น SP ก่อนเข้าช้อนราคาถูก

01 ก.ค. 2562 | 06:24 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ราคาหุ้นถูก SP เปิดซื้อขายวันแรกส่วนใหญ่ราคาลดลง รายย่อยแห่เทขายหลังถูกดองมานาน แต่ระหว่างวันยังแห่เข้าซื้อเก็งกำไร จากความเชื่อมั่นบางบริษัทมีสิทธิลุ้นกลับมาเทรดปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ก.ค.62) ถือเป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมายเอสพีชั่วคราว โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว (SP) ตามที่มีรายชื่อกำหนดไว้จำนวน 16 หลักทรัพย์ ระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.นี้ หลังจากถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายมาเป็นเวลานาน และก่อนหุ้นถูกเพิกถอนออกไป โดยบรรยากาศการซื้อขายพบว่าส่วนใหญ่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง จากราคาวันสุดท้ายก่อนถูกขึ้นเครื่องหมาย SP แต่หลังจากนั้นราคาได้ปรับขึ้นจากราคาเปิดวันแรก ด้วยแรงซื้อเข้าเก็งกำไรจากความคาดหวังหุ้นบางตัวจะกลับมาซื้อขายปกติได้

รายย่อยแห่ขายหุ้น SP ก่อนเข้าช้อนราคาถูก

สำหรับ 16 หลักทรัพย์ที่เปิดซื้อขายชั่วคราว พบว่าปิดตลาดหุ้นภาคเช้า ราคาเคลื่อนไหว ประกอบด้วย บมจ,แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป (A5) ราคาปิดที่ 1.85 บาท ลดลง 0.85 บาท หรือ % จากราคาเปิดอยู่ที่ 2.70 บาท, บมจ.บลิส-เทล (BLISS) ราคาปิดที่ 0.14 บาท เพื่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 27.27% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.11 บาท, บมจ.บางกอกสหประกันภัย (BUI) ราคาปิดที่ 13.70 บาท ลดลง 1.30 บาท หรือ 8.66% จากราคาเปิดอยู่ที่ 15.00 บาท, บมจ.ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) (CHUO) ราคาปิดที่ 0.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 4.76% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.21 บาท

 

บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ราคาปิดที่ 0.43 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 19.44% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.36 บาท, บมจ.จี สตีล (GSTEL) ราคาปิดที่ 0.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 50% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.04 บาท, บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ราคาปิดที่ 0.73 บาท เพิ่มขึ้น 0.52 บาท หรือ 247.61% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.21 บาท, บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) ราคาปิดที่ 0.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 46.66% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.15 บาท, บมจ.เคเทค คอนสตรัคชั่น (KTECH) ราคาปิดที่ 0.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 50% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.12 บาท

 

บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) ราคาปิดที่ 0.36 บาท ลดลง 0.44 บาท หรือ 55% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.80 บาท, บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) ราคาปิดที่ 0.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 11.11% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.09 บาท, บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ราคาปิดที่ 0.07 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 16.66% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.06 บาท, บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) (PRO) ราคาปิดที่ 0.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 22.58% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.31 บาท, บมจ.ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง (STHAI) ราคาปิดที่  0.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 100% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.01 บาท, บมจ.ทรีซิกตี้ไฟว์ (TSF) ราคาปิดที่ 0.01 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและบมจ.วีรีเทล จำกัด (มหาชน) (WR) ราคาปิดที่ 0.50 บาท ลดลง 0.07 บาท หรือ 12.28% จากราคาเปิดอยู่ที่ 0.57 บาท

 

นอกจากนี้ เพื่อให้หลักทรัพย์สามารถซื้อขายต่อไปได้ตามสภาพความเป็นจริง จะไม่มีการกำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุดของหลักทรัพย์ดังกล่าวในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 หรือวันแรกที่มีการซื้อขาย ทั้งนี้ ข้อมูลการซื้อขายของหลักทรัพย์ในกลุ่มนี้จะไม่รวมคำนวณในข้อมูลสถิติของตลาดหลักทรัพย์

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่าช่วงการเปิดเทรดชั่วคราวหุ้นที่ถูก SP อาจถูกเทขายมาจากผู้ถือหุ้นเดิมหรือมีรายใหม่เข้ามาเก็งกำไร แต่ความเสี่ยงคือระยะเวลาในการถือหุ้นจะนาน เพราะไม่แน่นอนว่าจะกลับมาซื้อขายได้เมื่อไร จากการสำรวจมี  3 หลักทรัพย์ที่มีกำไรคือ PRO, BLISS และ BUI และทุนจดทะเบียนเข้าเกณฑ์ แต่ยังต้องติดตามคุณสมบัติอื่นๆ ว่าจะผ่านการพิจารณาได้ในอนาคตหรือไม่

รายย่อยแห่ขายหุ้น SP ก่อนเข้าช้อนราคาถูก