ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปรับสวนทาง หุ้นเทคโนฯดิ่งฉุดแนสแด็กร่วง

04 มิ.ย. 2562 | 00:36 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2562 | 07:38 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ และผลกระทบของสงครามการค้า 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,819.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.74 จุด หรือ +0.02%   ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,744.45 จุด ลดลง 7.61 จุด หรือ -0.28%      ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,333.02 จุด ลดลง 120.13 จุด หรือ -1.61%

 

ดัชนี Nasdaq เข้าสู่ภาวะพักฐาน หลังจากมีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังสอบสวน 4 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลในข้อหาผูกขาดตลาด ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก  โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 7.5% หุ้นอเมซอน ร่วงลง 4.6% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 6.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 2% หุ้นอินเทล ปรับลง 1.3% 

นอกจากนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดัน จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% เพื่อกดดันให้รัฐบาลเม็กซิโกสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ

ขณะที่นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน และมอร์แกน สแตนลีย์  ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนว่า ไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในปลายเดือนนี้  

 

ตลาดยังได้รับผลกระทบจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 จากระดับ 52.6 ในเดือนเม.ย.

 

ทางด้านผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 52.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต.ค.2559 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะดีดตัวสู่ระดับ 53.0 จากระดับ 52.8 ในเดือนเม.ย.