เปิดหลักฐานเจ้าหนี้หุ้นกู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟู IFEC ที่แท้คนในตระกูล “ถาวรวัฒนยงค์” ชิงตัดหน้าไม่ให้บริษัทจัดประชุมเลือกตั้งบอร์ดใหม่ ด้านผู้ถือหุ้นรายย่อย-เจ้าหนี้ เตรียมยื่นคัดค้านแผนฟื้นฟูฯ ในสัปดาห์หน้า
จากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ให้ผู้บริหารบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ชี้แจงข้อมูลเจ้าหนี้ที่ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ล่าสุดบริษัทได้ออกหนังสือ ลงชื่อนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/กรรมการบริษัท ชี้แจงรายละเอียดว่า เจ้าหนี้ผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการชื่อ “นางสมศรี จีระวิพูลวรรณ” ผู้ร้องได้ซื้อหุ้นกู้จากผู้ถือหุ้นกู้รายเดิมจำนวน 10 ล้านบาท โดยได้ชำระราคาและรับมอบใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือและได้รับสลักจากผู้ถือใบหุ้นเดิมโดยถูกต้อง โดยได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561
ตามคำร้องระบุสาเหตุการยื่นขอฟื้นฟูกิจการว่า บริษัทมีภาระหนี้ที่ครบกำหนดชำระเพิ่มขึ้นและมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดลง ทำให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน และมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้เป็นผู้ทำแผน โดยงบการเงินประจำปี 2560 และปี 2561 บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่ได้ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี ซึ่งหากบริษัทไม่ได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อศาลจะไม่สามารถดำเนินการชำระหนี้ได้ โดยช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการเห็นว่าธุรกิจของบริษัทยังสามารถประกอบกิจการต่อไปได้และมีแนวโน้มจะขยายตัวทางการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ธุรกิจบริหารจัดการขยะ ธุรกิจโรงแรมและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าหนี้ผู้ยื่นคำร้องได้เสนอให้นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ เป็นผู้ทำแผน
อย่างไรก็ดีจากข้อมูลผู้ถือหุ้นกู้ IFEC หน้าตั๋วปรากฏชื่อ “นายวิวัฒน์ ถาวรวัฒนยงค์” (น้องชายนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ IFEC) ก่อนโอนสลักหลังไปให้น.ส.พจนา ถาวรวัฒนยงค์ (มารดา) และให้ “สมศรี จีระวิพูลวรรณ” เป็นผู้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ
ด้านนางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าในสัปดาห์หน้า ตัวแทนผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้จะยื่นคัดค้านแผนฟื้นฟู IFEC ต่อศาลล้มละลายกลาง เนื่องจากเห็นความไม่ชอบมาพากลของอดีตผู้บริหารชุดนี้ที่พยายามจะครอบงำกิจการ IFEC โดยไม่ชอบทางกฎหมายในหลายๆ เรื่อง ทั้งในเรื่องสถานะการเงินของบริษัท ตามงบการเงินประจำปี 2559 บริษัทยังมีสินทรัพย์รวม 1.26 หมื่นล้านบาท หนี้สินรวม 9,344 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 3,227 ล้านบาท ที่ยังไม่เข้าข่ายหนี้สินล้นพ้นตัวจนต้องเข้าแผนฟื้นฟู ซึ่งต้องดูข้อมูลล่าสุด
“การที่นายวิวัฒน์ ถาวรวัฒนยงค์ เจ้าหนี้หุ้นกู้ 10 ล้านบาท จะยื่นแผนฟื้นฟูใดๆ ควรได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้หุ้นกู้รายอื่น ที่รวมกันกว่า 3,400 ล้านบาทเสียก่อน ไม่ใช่มามัดมือชก และการแต่งตั้งนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ เป็นผู้บริหารแผน ก็เป็นบุคคลที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษอยู่แล้ว ล่าสุดเพิ่งถูกสั่งปรับ 22 ล้านบาท ฐานใช้ข้อมูลอินไซด์ในการขายหุ้น IFEC และต้องพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งปวง”
นายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ IFEC กล่าวว่า การที่เจ้าหนี้ยื่นแผนฟื้นฟูต่อศาลฯ จะทำให้ หุ้น IFEC หมดโอกาสที่จะกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วัตถุ ประสงค์ของผู้ยื่นแผนฯเห็นชัดอยู่แล้วว่าต้องการสกัดไม่ให้เกิดการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ ก่อนที่ศาลฯจะนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ก็คือผู้บริหารแผนและฟื้นฟูกิจการ
“ความเชื่อมโยงระหว่างผู้ยื่นแผนฯ ดูจากนามสกุลผู้ถือตั๋ว ก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นกลุ่มเดียวกับอดีตผู้บริหาร”
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,397 วันที่ 2-5 กันยายน 2561