Play
เลื่อนเทรด JFinCoin รอกฎเกณฑ์ชัดเจน
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
JMART เลื่อนแผนนำ JFin Coin ซื้อขายในตลาดรองไปอีก 1 เดือน เป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 รอให้มีการประกาศกฎเกณฑ์การกำกับดูแลให้ชัดเจนก่อน ส่วนเงิน 660 ล้านบาทที่ระดมทุนมาเริ่มใช้พัฒนาระบบ DDLP คาดเริ่มใช้งานได้ปี 2562
หลังจากบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) JMART ประกาศความสำเร็จจากการที่ บริษัท เจ เวนเจอร์สฯ (JVC) บริษัทย่อยที่ระดมทุน ICO สำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเปิด PreSale ขาย JFin Coin 100 ล้านโทเคนหมดภายใน 55 ชั่วโมง ทางบริษัทเดินหน้าตามแผนที่กำหนด คือพัฒนาระบบ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) คาดว่าระบบสินเชื่อแบบดิจิตอลที่ไม่มีตัวกลาง จะเริ่มใช้งานในกลุ่มเจมาร์ทได้ภายในปี 2562 นี้
ขณะที่ JFin Coin จะเลื่อนเข้าซื้อขายในตลาดรองออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เพื่อรอความชัดเจนของการประกาศใช้กฎเกณฑ์การกำกับดูแลจากภาครัฐ โดยคาดว่าจะประกาศออกมาภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ นอกจากตลาดรองอย่าง TDAX.com อาจพิจารณาเข้าตลาดรองอื่นเพิ่มเติมอย่าง BX.in.th รวมถึงมีแผนไปโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อให้ JFin Coin เป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น
[caption id="attachment_272732" align="aligncenter" width="335"]
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา[/caption]
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา นายประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART บริษัท โฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจการเงิน เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานหลังจาก บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC (เป็นบริษัทย่อยที่ JMART ถือหุ้นในสัดส่วน 80%) ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และแอพพลิเคชันทางด้านฟินเทค ลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพ ประสบความสำเร็จจากการระดมทุนด้วยการทำ Initial Coin Offering (ICO) เป็นรายแรกในประเทศไทยของกลุ่มบริษัทมหาชน ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้ในการทำธุรกิจสินเชื่อ
“เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 660 ล้านบาท ทีมงานได้เริ่มดำเนินการพัฒนาระบบ DDLP ไปตามแผนที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อของกลุ่มเจมาร์ท ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้” นายอดิศักดิ์กล่าว
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC กล่าวถึง การพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิตอลที่ไม่มีตัวกลาง (DDLP) คือ ระบบการกู้ยืมเงินแบบดิจิตอลบนเทคโนโลยี Blockchain ที่มีความปลอดภัยสูง รองรับกระบวนการแบบครบวงจร ตั้งแต่การระบุตัวตน (KYC) กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินเครดิต การอนุมัติสินเชื่อ และการติดตามหนี้สิน เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการบริการด้านสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรองรับระบบ P2P Lending ระบบตลาดสินเชื่อออนไลน์ที่เชื่อมต่อให้ผู้กู้ที่มีศักยภาพสามารถกู้เงินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงิน ดังนั้น ระบบ DDLP จะเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มบริษัทเจมาร์ทในอนาคตอันใกล้นี้ ตั้งเป้าระบบจะแล้วเสร็จ พร้อมเริ่มใช้งานในปี 2562
JFin DDLP ระบบที่พัฒนาขึ้นจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ทำให้สามารถสร้างระบบการเงินที่ยั่งยืน ขยายตลาด และเข้าถึงประชากรได้อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารหรือการให้บริการทางการเงิน โดยบริษัท มุ่งเน้นการจับกลุ่มลูกค้าที่มีเครดิตดี วิเคราะห์จากฐานข้อมูลลูกค้าของกลุ่มเจมาร์ทที่มีรวมกันมากกว่า 3 ล้านราย โดยเฉพาะบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพและรับจ้างติดตามหนี้สิน เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เรามีฐานข้อมูลและสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,352 วันที่ 29 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2561
หลังจากบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) JMART ประกาศความสำเร็จจากการที่ บริษัท เจ เวนเจอร์สฯ (JVC) บริษัทย่อยที่ระดมทุน ICO สำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเปิด PreSale ขาย JFin Coin 100 ล้านโทเคนหมดภายใน 55 ชั่วโมง ทางบริษัทเดินหน้าตามแผนที่กำหนด คือพัฒนาระบบ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) คาดว่าระบบสินเชื่อแบบดิจิตอลที่ไม่มีตัวกลาง จะเริ่มใช้งานในกลุ่มเจมาร์ทได้ภายในปี 2562 นี้
ขณะที่ JFin Coin จะเลื่อนเข้าซื้อขายในตลาดรองออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เพื่อรอความชัดเจนของการประกาศใช้กฎเกณฑ์การกำกับดูแลจากภาครัฐ โดยคาดว่าจะประกาศออกมาภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ นอกจากตลาดรองอย่าง TDAX.com อาจพิจารณาเข้าตลาดรองอื่นเพิ่มเติมอย่าง BX.in.th รวมถึงมีแผนไปโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อให้ JFin Coin เป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น
[caption id="attachment_272732" align="aligncenter" width="335"]
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา นายประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART บริษัท โฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจการเงิน เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานหลังจาก บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC (เป็นบริษัทย่อยที่ JMART ถือหุ้นในสัดส่วน 80%) ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และแอพพลิเคชันทางด้านฟินเทค ลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพ ประสบความสำเร็จจากการระดมทุนด้วยการทำ Initial Coin Offering (ICO) เป็นรายแรกในประเทศไทยของกลุ่มบริษัทมหาชน ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้ในการทำธุรกิจสินเชื่อ
“เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 660 ล้านบาท ทีมงานได้เริ่มดำเนินการพัฒนาระบบ DDLP ไปตามแผนที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อของกลุ่มเจมาร์ท ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้” นายอดิศักดิ์กล่าว
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC กล่าวถึง การพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิตอลที่ไม่มีตัวกลาง (DDLP) คือ ระบบการกู้ยืมเงินแบบดิจิตอลบนเทคโนโลยี Blockchain ที่มีความปลอดภัยสูง รองรับกระบวนการแบบครบวงจร ตั้งแต่การระบุตัวตน (KYC) กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินเครดิต การอนุมัติสินเชื่อ และการติดตามหนี้สิน เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการบริการด้านสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรองรับระบบ P2P Lending ระบบตลาดสินเชื่อออนไลน์ที่เชื่อมต่อให้ผู้กู้ที่มีศักยภาพสามารถกู้เงินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงิน ดังนั้น ระบบ DDLP จะเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มบริษัทเจมาร์ทในอนาคตอันใกล้นี้ ตั้งเป้าระบบจะแล้วเสร็จ พร้อมเริ่มใช้งานในปี 2562
JFin DDLP ระบบที่พัฒนาขึ้นจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ทำให้สามารถสร้างระบบการเงินที่ยั่งยืน ขยายตลาด และเข้าถึงประชากรได้อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารหรือการให้บริการทางการเงิน โดยบริษัท มุ่งเน้นการจับกลุ่มลูกค้าที่มีเครดิตดี วิเคราะห์จากฐานข้อมูลลูกค้าของกลุ่มเจมาร์ทที่มีรวมกันมากกว่า 3 ล้านราย โดยเฉพาะบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพและรับจ้างติดตามหนี้สิน เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เรามีฐานข้อมูลและสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,352 วันที่ 29 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2561
