UREKA เปิดแผนครึ่งปีหลังเน้นงานรองรับไทยแลนด์ 4.0

19 ก.ค. 2560 | 10:16 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

UREKA เปิดแผนครึ่งปีหลัง มุ่งเน้นงานรองรับไทยแลนด์ 4.0 หลังรัฐเตรียมออกกฎเอื้อให้ผู้ประกอบการลงทุน ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นอุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 ผู้บริหารเผย ตุนงานในมือกว่า 190 ล้านบาท พร้อมยื่นประมูลงานใหม่อีก 200 ล้านบาท รู้ผลไตรมาส Q3/60 นี้

image207414 นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า บริษัทจะมุ่งเน้นงานรองรับไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รัฐบาลเตรียมออกกฎเพื่อเอื้ออำนายความสะดวกให้ผู้ประกอบการลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตของตนเองให้เป็นอุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 โดยมีการลงทุนระบบ Automation มากขึ้น ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังคงนโยบายการลดต้นทุนในการดำเนินงานทุกรูปแบบ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดการณ์ว่าแนวโน้มรายได้ในครึ่งปีหลังน่าจะมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากครบกำหนดการส่งมอบงานหลายโครงการ ทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามา โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 190 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงานจากบริษัทย่อย คือ กิจการร่วมค้า ยูเรกา ยูเอ็มไอ มูลค่า 53 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างเดียว โดยจะรับรู้ปีนี้ในสัดส่วน 70% ของยอดกำไร

“บริษัทฯยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีงานที่อยู่ระหว่างประมูลอีก มูลค่า 200 ล้านบาท แบ่งเป็น งานด้านเครื่องจักรในประเทศไทย ประมาณ 50 ล้านบาท และที่ประเทศอินเดีย 30 ล้านบาท คาดทราบผลในไตรมาส 3/2560 ,งานด้าน Logistic automation จำนวน 4 งาน มูลค่ารวม 100 ล้านบาท คาดทราบผลประมูลภายในไตรมาส 3/2560 จำนวน 2 งาน มูลค่า 50 ล้านบาท และงานประมูล chiller ของกิจการร่วมค้า ยูเรกา ยูเอ็มไอ ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งมูลค่า 20 ล้านบาท คาดทราบผลเดือนกรกฎาคมนี้”นายนรากร กล่าว

อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงเป้าหมายสัดส่วนรายได้ในแต่ละธุรกิจปีนี้ แบ่งเป็น 1.งานออกแบบและผลิตเครื่องจักรในหลากหลายอุตสาหกรรม (ยานยนต์, พลาสติก,เกษตร, และอื่นๆ) สัดส่วน 65% 2.งานออกแบบระบบอัตโนมัติในการผลิต (ระบบออโตเมชั่น) สัดส่วน 20% 3.งานระบบขนส่งลำเลียงแบบอัตโนมัติ (Logistic Automation) สัดส่วน 3% 4.ระบบประหยัดพลังงาน (Energy Conservation) สัดส่วน 12%