ย้ำ “อย่าเผา” เตือนเกษตรกรเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ ร่วมป้องกัน PM2.5

19 ธ.ค. 2568 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ธ.ค. 2568 | 11:03 น.

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเตือนเกษตรกรเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ งดเผาตอซัง ใช้ไถกลบแทน ลดฝุ่น PM2.5 กระทบสุขภาพพร้อมย้ำมาตรการไม่รับซื้อผลผลิตจากการเผา-รุกป่า ยกระดับข้าวโพดไทยให้ผ่านกติกาการค้าโลกและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

KEY

POINTS

  • สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรณรงค์ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดใช้วิธี "ไถกลบแทนการเผา" ในช่วงเตรียมพื้นที่เพาะปลูกฤดูกาลใหม่ เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5
  • โรงงานอาหารสัตว์มีนโยบายไม่รับซื้อผลผลิตข้าวโพดที่มาจากการเผาตอซังหรือการบุกรุกป่า เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับกติกาการค้าระหว่างประเทศ
  • การไถกลบตอซังไม่เพียงช่วยลดมลพิษ แต่ยังเป็นผลดีต่อเกษตรกรโดยตรง เพราะช่วยปรับปรุงคุณภาพดินและลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยในระยะยาว
  • ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป การนำเข้าข้าวโพดจะต้องมีใบรับรองปลอดการเผา ซึ่งเป็นมาตรการที่เกษตรกรไทยต้องปรับตัวตามเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ส่งความห่วงใยถึงพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ ในช่วงเข้าสู่ช่วงการเตรียมดินเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นี้ ขอความร่วมมือใช้วิธี “ไถกลบแทนการเผา” เพื่อร่วมกันลดวิกฤตฝุ่น PM2.5 พร้อมย้ำนโยบายรับซื้อผลผลิตที่เน้นความยั่งยืน เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าในระดับสากลและรักษาสิ่งแวดล้อม

รายงานข่าวจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ระบุว่า ในช่วงต้นปีที่เป็นช่วงพักดินและเตรียมพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ เกษตรกรในบางพื้นที่อาจยังมีความเคยชินกับการเผาตอซังเพื่อให้สะดวกต่อการไถแปร แม้จะไม่ใช่สาเหตุหลักแต่การเผาเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งผลกระทบวงต่อสุขภาพและก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 

ย้ำ “อย่าเผา” เตือนเกษตรกรเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ ร่วมป้องกัน PM2.5

ปัจจุบัน โรงงานผลิตอาหารสัตว์ทุกแห่งภายใต้สมาคมฯ มีทิศทางการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) โดยมีนโยบาย ไม่รับซื้อข้าวโพดที่ผ่านการเผาตอซังหรือมาจากการรุกป่า ซึ่งมาตรการนี้ไม่ได้มีเพื่อกดดันเกษตรกร แต่เป็นไปเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยเฉพาะภายใต้กติกาการค้าระหว่างประเทศใหม่ ๆ

เฉพาะอย่างยิ่งอย่างมาตรการ CBAM -Carbon Border Adjustment Mechanism หรือ  มาตรการปรับภาษีคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปีหน้าจะต้องมีใบรับรองปลอดการเผาประกอบการนำเข้าด้วย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกรมการค้าต่างประเทศที่กำลังจะออกประกาศให้มีผลในวันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป

ย้ำ “อย่าเผา” เตือนเกษตรกรเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ ร่วมป้องกัน PM2.5

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า สมาคมฯ มีความตั้งใจจริงที่จะสนับสนุนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรภายในประเทศให้มากที่สุด แม้จะมีโควตานำเข้าจากต่างประเทศเพื่อชดเชยส่วนที่ขาด แต่ความสำคัญอันดับแรกคือการรับซื้อผลผลิตจากพี่น้องชาวไทยให้หมดก่อน ภายใต้เงื่อนไขเดียวคือต้องไม่เผา-ไม่รุกป่า

“เราอยากให้เกษตรกรตระหนักว่า การไม่เผาไม่ใช่แค่การทำตามกฎ แต่คือการช่วยกันดูแลสุขภาพของลูกหลานเราเอง และยังเป็นการรักษาใบเบิกทาง ในการขายผลผลิตให้กับอุตสาหกรรม หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทั้งเกษตรกร พ่อค้าคนกลาง และโรงงาน เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมแก้ปัญหา PM2.5 ได้อย่างยั่งยืน” นายพรศิลป์กล่าว

ทางสมาคมฯ จึงอยากสื่อสารไปยังพี่น้องเกษตรกรด้วยความปรารถนาดีว่า การปรับเปลี่ยนมาใช้วิธี “การไม่เผา” เช่น การไถกลบเศษวัสดุลงในดิน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดควันไฟ แต่ยังเป็นผลดีต่อตัวเกษตรกรเอง เพราะจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย เพิ่มธาตุอาหารและจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ ทำให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในระยะยาว และที่สำคัญจะเกิดประโยชน์แก่สุขภาพของตัวเกษตรกรและคนในท้องถิ่นด้วย 

ย้ำ “อย่าเผา” เตือนเกษตรกรเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวโพดฤดูกาลใหม่ ร่วมป้องกัน PM2.5 นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า หากเกษตรกรรายใดที่อยากจะเลิกเผาแต่ยังไม่มีวิธีการจัดการ สามารถติดต่อไปยังพ่อค้าคนกลางในแต่ละท้องถิ่นที่เกษตรกรทำการซื้อ-ขายข้าวโพดอยู่ประจำ หรือจะติดต่อมาที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย หรือหน่วยงานรัฐ เช่น กรมวิชาการเกษตร หรือ พาณิชย์จังหวัดในท้องที่เพื่อเข้าไปช่วยในเรื่องนี้ได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ สมาคมฯ ขอสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการนำเข้าข้าวโพดปลอดการเผาเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยได้ประสานไปยังสมาคมการค้าข้าวโพดเมียนมาเพื่อให้เตรียมความพร้อมรองรับแนวทางการรับซื้อข้าวโพดไม่เผานี้แล้ว และรวมถึงประเทศอื่นๆที่จะส่งข้าวโพดเข้ามาที่ประเทศไทย จะต้องมีใบรับรองปลอดการเผาประกอบการนำเข้าด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันประเทศไทยก็ต้องดำเนินการเลิกเผาเช่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป