บอร์ด SME เคาะอัดงบ 2.7 พันล้าน ดันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ-พักหนี้ 1 ปี ฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคใต้

08 ธ.ค. 2568 | 09:10 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2568 | 09:17 น.

‘พิพัฒน์’ นำทีมบอร์ด SME ไฟเขียวอัดงบ 2.7 พันล้านบาท หนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ-พักหนี้ 1 ปี อุ้มผู้ประกอบการ SME กลุ่มแรกนำร่องกว่า 2,000 ราย ลุยฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ 9 จังหวัด หลังน้ำท่วมหนัก

KEY

POINTS

  • บอร์ด SME อนุมัติงบประมาณ 2,700 ล้านบาท เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ทั่วประเทศและโดยเฉพาะใน 9 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย
  • มาตรการหลักประกอบด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 1,200 ล้านบาท พร้อมปลอดชำระเงินต้น 1 ปี และมาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนานสูงสุด 1 ปี
  • นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสถานประกอบการ และการให้แต้มต่อในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(บอร์ด SME) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด SME มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ทั่วไทยและใน 9 จังหวัดภาคใต้ ที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง ตรัง สตูล นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี 
 
ทั้งนี้จากข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ชี้ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้ประกอบการกว่า 200,000 รายได้รับผลกระทบ และกระทบต่อการจ้างงานกว่า 900,000 คน จึงจำเป็นต้องออกมาตรการแบบเฉพาะพื้นที่–ตรงจุด–เข้าถึงง่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็วที่สุด
 
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่าว่า บอร์ด SME เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือ SME โดยใช้เงินจากกองทุนส่งเสริม SME รวม 2,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการทางการเงิน Quick Big Win วงเงิน 2.67 แสนล้านบาท ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 7 แห่งที่ ครม.มีมติอนุมัติไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ภายใต้การกำกับดูแลของบอร์ดส่งเสริม SME และ สสว ดังนี้ 
 

สำหรับมาตรการที่ 1 การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ มีเวลาปลอดชำระ ให้แก่ผู้ประกอบการ SME ทั่วประเทศ วงเงิน 1,200 ล้านบาท 

โดยมาตรการที่ 1 เป็นการให้วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น 1 ปี รวม 1,200 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ SME ทั่วประเทศไทย ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. Transformation Fund – 400 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการปรับรูปแบบธุรกิจใหม่ ใช้เทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ที่ตลาดต้องการ 2. Enhancement Fund – 400 ล้านบาท ช่วยธุรกิจที่มีศักยภาพให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

3. Tourism & Related Fund – 400 ล้านบาท ช่วยธุรกิจท่องเที่ยวและกิจการที่เกี่ยวเนื่องทั่วไทย และที่ได้รับผลกระทบหนักในพื้นที่ภาคใต้ เช่น ร้านอาหารโรงแรม รถเช่า ไกด์ ฯลฯ
 
ทั้งนี้บอร์ดได้ปรับลดเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ประกอบการ จากเดิมที่ต้องประกอบการ 2 ปี ลดเหลือ 6 เดือน เพื่อเปิดทางให้ SME รายใหม่ที่เพิ่งเริ่มกิจการก็สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ พร้อมสิทธิ ปลอดชำระเงินต้น เพื่อลดภาระผู้ประกอบการและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทันที

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้กำกับดูแล สสว. กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนด 3 มาตรการฉุกเฉินเพื่อช่วย SME ทุกกลุ่มให้กลับมาดำเนินกิจการได้เร็วที่สุด ได้แก่ 1. พักชำระหนี้ 6 เดือน – 1 ปีครอบคลุมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ลดภาระช่วงธุรกิจหยุดชะงัก 

2. ซ่อมแซมฉุกเฉิน BDS – SME ปัง ตังได้คืน โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายซ่อมหรือปรับปรุงร้าน 50–80% เพื่อให้กลับมาเปิดได้เร็วที่สุด

3. เพิ่มสภาพคล่องผ่านแต้มต่อจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ SME ในพื้นที่น้ำท่วมได้รับแต้มต่อสูงสุด 20% ช่วยให้เข้าถึงงานรัฐเร็วขึ้นและมีรายได้หมุนเวียนทันที
 
นางสาวปณิตา  ชินวัตร รองผู้อำนวยการและรักษาการผู้อำนวยการ สสว กล่าวว่า สสว. จะเร่งการประชาสัมพันธ์โครงการ เกณฑ์การเข้าร่วมโครงการ การอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการยื่นขอรับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด พร้อมติดตามวัดผลโครงการ โดยตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการกลุ่มแรกไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย ให้ฟื้นตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
 
ทั้งนี้มาตรการการให้ความช่วยเหลือของ สสว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการช่วยเหลือ SME ทั่วไทย และ SME ภาคใต้ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยและภาคใต้หลังอุทกภัยใหญ่

โดยมาตรการของบอร์ด SME เน้นช่วยผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดกลาง เพื่อสร้างโอกาสให้ SME กลับมาสร้างงาน สร้างรายได้ และเดินหน้าธุรกิจอย่างยั่งยืน