KEY
POINTS
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งสำคัญของประเทศ โดยอุตสาหกรรมกุ้งในพื้นที่ภาคใต้มีสัดส่วนราว 11% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศ คิดเป็นผลผลิตเฉลี่ย 270,000–280,000 ตันต่อปี มูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กระแสน้ำท่วมได้ทำให้ผลผลิตสูญหายจำนวนมาก โดยประเมินเบื้องต้นว่า ความเสียหายเฉพาะผลผลิตอยู่ที่ราว 500 ล้านบาท และเมื่อรวมความเสียหายของเครื่องตีน้ำ มอเตอร์ไฟฟ้า อาหารกุ้ง ลูกกุ้ง และอุปกรณ์ฟาร์มที่ถูกน้ำพัดพังทลาย มูลค่าความเสียหาย อาจสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ในรอบหลายปี
นายเอกพจน์ระบุว่า ผู้เลี้ยงกุ้งจำนวนมากขณะนี้อยู่ในภาวะตั้งตัวไม่ทัน เพราะไม่เพียงบ่อกุ้งถูกน้ำท่วม แต่ยังสูญเสียปัจจัยการผลิตสำคัญ ทั้งลูกกุ้ง อาหารกุ้ง และระบบเครื่องจักรที่ใช้ในการเติมอากาศและจัดการคุณภาพน้ำ ทำให้ฟาร์มจำนวนมากไม่สามารถกลับเข้าสู่รอบการผลิตใหม่ได้
สมาคมกุ้งไทยเสนอให้รัฐบาลเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและออกมาตรการเยียวยาอย่างเร่งด่วน โดยข้อเสนอเบื้องต้นประกอบด้วย สนับสนุนปัจจัยการผลิตใหม่ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า อาหารกุ้ง และลูกกุ้ง เพื่อให้ผู้เลี้ยงสามารถกลับมาเพาะเลี้ยงด้ทันรอบใหม่,ให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 1–2 ปี ช่วยผู้เลี้ยงกุ้งตั้งหลักหลังสูญเสียรายได้,ส่งเสริมการปรับระบบการผลิตสู่ Low Carbon โดยประสานบทบาทกระทรวงพลังงานช่วยลดต้นทุนและยกระดับมาตรฐานฟาร์มในอนาคต
ทั้งนี้สมาคมฯเตรียมจัดทำหนังสือเสนออย่างเป็นทางการถึงนายกรัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรฯ เพื่อผลักดันให้การช่วยเหลือเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ดีผลจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อาหารทะเลเนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้เลี้ยงกุ้งรวมกว่า 20,000 ราย โดยผู้เพาะเลี้ยงในภาคใต้คิดเป็นอย่างน้อย 10% ของทั้งประเทศ อุตสาหกรรมกุ้งถือเป็นหนึ่งในภาคการผลิตสัตว์น้ำที่สำคัญ สร้างมูลค่ารวมมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี
สมาคมกังวลว่าหากการฟื้นฟูล่าช้าจะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล โดยเฉพาะโรงงานแปรรูป และอาจส่งผลต่อภาพรวมการส่งออกในระยะยาว เนื่องจากผู้เลี้ยงจำนวนมากอาจไม่สามารถกลับมาผลิตได้ทันรอบปีหน้า
“เหตุการณ์ครั้งนี้กระทบผู้เลี้ยงกุ้งในทุกระดับ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ทันท่วงที ไม่เพียงผลผลิตจะหาย แต่ยังอาจกระทบความสามารถในการแข่งขันของกุ้งไทยในตลาดโลกด้วย” นายเอกพจน์ กล่าว