มหาอุทกภัยภาคใต้ ฉุดผลผลิตกุ้ง–อุปกรณ์เสียหายกว่า 1,000 ล้าน จี้รัฐเร่งฟื้นฟูเยียวยา

01 ธ.ค. 2568 | 05:35 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2568 | 05:46 น.

น้ำท่วมใต้ครั้งใหญ่ กระทบอุตสาหกรรมกุ้งรุนแรง บ่อเพาะเลี้ยง เครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิตถูกน้ำพัดเสียหายจำนวนมาก สมาคมกุ้งไทยประเมินเสียหายเบื้องต้นกว่า 1,000 ล้านบาท จี้รัฐบาลเร่งสำรวจและออกชุดมาตรการฟื้นฟูเพื่อประคองผู้เลี้ยงกุ้งไม่ให้หยุดชะงักการผลิต

KEY

POINTS

  • สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างรุนแรง โดยประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นทั้งผลผลิตและอุปกรณ์ฟาร์มรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
  • เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจำนวนมากได้รับผลกระทบหนัก ไม่สามารถเริ่มรอบการผลิตใหม่ได้ เนื่องจากสูญเสียปัจจัยการผลิตที่สำคัญ เช่น ลูกกุ้ง อาหาร และเครื่องจักรในฟาร์ม
  • สมาคมกุ้งไทยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเยียวยาอย่างเร่งด่วน เช่น การสนับสนุนปัจจัยการผลิตใหม่ และการให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถฟื้นตัวได้

นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งสำคัญของประเทศ โดยอุตสาหกรรมกุ้งในพื้นที่ภาคใต้มีสัดส่วนราว 11% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศ คิดเป็นผลผลิตเฉลี่ย 270,000–280,000 ตันต่อปี มูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กระแสน้ำท่วมได้ทำให้ผลผลิตสูญหายจำนวนมาก โดยประเมินเบื้องต้นว่า ความเสียหายเฉพาะผลผลิตอยู่ที่ราว 500 ล้านบาท และเมื่อรวมความเสียหายของเครื่องตีน้ำ มอเตอร์ไฟฟ้า อาหารกุ้ง ลูกกุ้ง และอุปกรณ์ฟาร์มที่ถูกน้ำพัดพังทลาย มูลค่าความเสียหาย อาจสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ในรอบหลายปี

นายเอกพจน์ระบุว่า ผู้เลี้ยงกุ้งจำนวนมากขณะนี้อยู่ในภาวะตั้งตัวไม่ทัน เพราะไม่เพียงบ่อกุ้งถูกน้ำท่วม แต่ยังสูญเสียปัจจัยการผลิตสำคัญ ทั้งลูกกุ้ง อาหารกุ้ง และระบบเครื่องจักรที่ใช้ในการเติมอากาศและจัดการคุณภาพน้ำ ทำให้ฟาร์มจำนวนมากไม่สามารถกลับเข้าสู่รอบการผลิตใหม่ได้

เอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย

สมาคมกุ้งไทยเสนอให้รัฐบาลเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและออกมาตรการเยียวยาอย่างเร่งด่วน โดยข้อเสนอเบื้องต้นประกอบด้วย สนับสนุนปัจจัยการผลิตใหม่ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า อาหารกุ้ง และลูกกุ้ง เพื่อให้ผู้เลี้ยงสามารถกลับมาเพาะเลี้ยงด้ทันรอบใหม่,ให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 1–2 ปี ช่วยผู้เลี้ยงกุ้งตั้งหลักหลังสูญเสียรายได้,ส่งเสริมการปรับระบบการผลิตสู่ Low Carbon โดยประสานบทบาทกระทรวงพลังงานช่วยลดต้นทุนและยกระดับมาตรฐานฟาร์มในอนาคต

ทั้งนี้สมาคมฯเตรียมจัดทำหนังสือเสนออย่างเป็นทางการถึงนายกรัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรฯ เพื่อผลักดันให้การช่วยเหลือเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ดีผลจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อาหารทะเลเนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้เลี้ยงกุ้งรวมกว่า 20,000 ราย โดยผู้เพาะเลี้ยงในภาคใต้คิดเป็นอย่างน้อย 10% ของทั้งประเทศ อุตสาหกรรมกุ้งถือเป็นหนึ่งในภาคการผลิตสัตว์น้ำที่สำคัญ สร้างมูลค่ารวมมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี

สมาคมกังวลว่าหากการฟื้นฟูล่าช้าจะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล โดยเฉพาะโรงงานแปรรูป และอาจส่งผลต่อภาพรวมการส่งออกในระยะยาว เนื่องจากผู้เลี้ยงจำนวนมากอาจไม่สามารถกลับมาผลิตได้ทันรอบปีหน้า

“เหตุการณ์ครั้งนี้กระทบผู้เลี้ยงกุ้งในทุกระดับ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ทันท่วงที ไม่เพียงผลผลิตจะหาย แต่ยังอาจกระทบความสามารถในการแข่งขันของกุ้งไทยในตลาดโลกด้วย” นายเอกพจน์ กล่าว