สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ จี้รัฐออกมาตรการพิเศษ “เงินเยียวยา-พักหนี้-ปัจจัยผลิต” เยียวยาภาคใต้

30 พ.ย. 2568 | 10:00 น.

“อุทัย” นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ จี้รัฐออกมาตรการพิเศษ “เงินเยียวยา-พักหนี้-หนุนปัจจัยผลิต” เยียวยาน้ำท่วมภาคใต้

KEY

POINTS

  • สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เช่น การยกเว้นภาษี การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการซ่อมแซมพื้นที่เพาะปลูก
  • เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้เดือดร้อนอย่างหนักจากอุทกภัยและฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถกรีดยางได้ ขาดรายได้ และต้นยางได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขังและโรคเชื้อรา
  • เรียกร้องให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เร่งสำรวจความเสียหายและใช้เงินกองทุนพัฒนายางพารา (Cess) ตาม พ.ร.บ. กยท. เพื่อฟื้นฟูสวนยางและช่วยเหลือเกษตรกรโดยด่วน

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยได้เชิญที่ปรึกษาและคณะกรรมการประชุมกรณีพิเศษภายหลังน้ำลด 9 จังหวัดภาคใต้ ในกรณีที่สมาชิกของสมาคมฯ ได้สะท้อนปัญหาในช่วงเกิดอุทกภัย และเกิดหวั่นวิตกหลังน้ำลด ซึ่งอาจเกิดปัญหากับการทำอาชีพเลี้ยงครอบครัวในอนาคต ซึ่งมืดแปดด้านไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตได้อย่างไร

“คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย คณะที่ปรึกษาและกรรมการสมาคมฯ ได้รวบรวมปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนยางสะท้อนมา โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้โดยสรุปข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาของเกษตรกรหลังน้ำลด” ดังนี้

1. ข้อเสนอแรกที่สำคัญที่สุด คือ ให้ยกเว้นภาษีให้ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม (รัฐบาลอาจเพิ่มมาตรการอื่นเพิ่มได้อีก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน)

2. รัฐบาลซ่อมแซมพื้นที่เพาะปลูก โดยออกค่าใช้จ่ายให้ (ใช้เครื่องจักรของทางราชการ)

3. ปล่อยเงินกู้แบบดอกเบี้ยต่ำ (โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้) เพื่อให้เกษตรกรจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ตามที่รัฐบาลกำหนด (เพราะต้องระดมภาคเอกชนรับซื้อผลผลิตปลอดสารพิษในราคาประกัน)จะเข้าขายในร้านค้าหรือโรงงานอุตสาหกรรมอัดกระป๋องเพื่อการส่งออก

4. ทางสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยได้ขอความร่วมมือจากภาคเอกชน โดยสมาคมฯจะส่งบุคคลากรไปให้ความรู้และช่วยจัดการนาโนจุลินทรี ช่วยฟื้นฟูยางพาราที่ถูกน้ำท่วม จำนวน 2,000 ชุด (1ชุด ฟื้นฟูได้ 10 ไร่)

  • หัวเชื้อเสริมอาหารสัตว์จำนวน 500 กก. เพื่อช่วยเกษตรกรเลี้ยงสัตว์เลี้ยงปลา โดยผสมร่วมกับอาหารท้องถิ่น ทำให้ธาตุอาหารครบ และเป็นการลดต้นทุนลงมาก ยับยั้งโรคติดต่อ ลดความเสี่ยงการขาดทุน ทั้งสองชนิด ทางสมาคมฯ จัดให้ฟรี และไปให้ความรู้ด้วย ซึ่งทางสมาคมฯ ได้รวบรวมสมาชิกที่ถูกน้ำท่วมไว้บางส่วน

5. สมาชิกสมาคมฯ ได้ขอร้องมาหลังน้ำลดจะฟื้นฟูต้นยางที่โค่นล้มและเอนจำนวนมาก รวมทั้งได้เกิดใบร่วงที่เกิดจากเชื้อราไฟทอฟธอราโจมตีสวนยาง RRIM600 ซึ่งเรื่องฟื้นฟูต้นยางและโรคซึ่งเป็นหน้าที่ของการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเงิน Cessตาม พรบ. กยท. มาตรา 49(3) และมีความพร้อมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ จะต้องเร่งลงไปสำรวจด่วน เพราะทุกจุดที่น้ำท่วมยาง มีเจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทยประจำอยู่แล้ว

เพียงแต่ออกไปให้ขวัญและกำลังใจให้ความรู้การฟื้นฟูเกษตรกรชาวสวน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในขณะที่เกษตรกรชาวสวนยางไม่รู้จะเดินไปสู่ทิศทางใด นอกจากนั้น เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้มีฝนตกติดต่อกัน 3-4 เดือน ซึ่งทำให้เกษตรกรชาวสวนยางไม่สามารถกรีดยางขายได้ จึงทำให้เกษตรกรชาวสวนยางนับแสนรายไม่มีเงินใช้จ่ายเลี้ยงครอบครัว ต้องเดือดร้อนแสนสาหัส(โดบเฉพาะในปีนี้ สวนยางถูกน้ำท่วมขัง ทำให้ต้นยางแช่น้ำเป็นเวลานาน ทำให้ผลผลิตลดลงจากปกติมาก

ด้วยเหตุดังกล่าว เกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย เนื้อที่ต่ำกว่า 25 ไร่ จึงช่วยตัวเองไม่ได้ ทางสมาคมฯจึงทำโครงการอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้หลังน้ำลด ตาม พรบ. กยท. ดังนี้

  • 1. การยางแห่งประเทศไทยจะต้องเร่งช่วยเหลือเกษตรกรตาม พรบ. กยท. มาตรา49(3)
  •   2. สวนยางน้ำท่วมขังเกิน 30 วัน ต้องใช้ปลูกแทนในกรณีพิเศษ ให้การสงเคราะห์ปลูกแทน สมัยวาตะภัยในปี 2505

อย่างไรก็ตามโครงการแก้ปัญหาหลังน้ำลดของเกษตรกร (เป็นเพียง Pilot Project) จึงเรียนมาเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลที่มีบุคลากรพร้อม และงบประมาณพร้อม ได้พิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เกษตรกรชาวสวนยางสู้ชีวิตต่อไป