เกษตรกรรม 4.0 ไทยเริ่มแล้ว ! กรมทรัพย์สินทางปัญญา- WIPO หนุน SMEs ขยายตลาดโลก

22 พ.ย. 2568 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ย. 2568 | 11:01 น.

กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วม WIPO และสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาในอาเซียน ดันโครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN ยกระดับเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อ SMEs เกษตรไทยเสริมศักยภาพธุรกิจเกษตรด้วยนวัตกรรม Agri-Tech และ AI สร้างมูลค่าเพิ่ม ขยายตลาดต่างประเทศ

KEY

POINTS

  • กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จัดโครงการ “Agriculture 4.0 in ASEAN” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรไทย
  • โครงการมุ่งส่งเสริมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า เพิ่มมูลค่าสินค้า และขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก
  • มีการคัดเลือก 4 ธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Agri-Tech ของไทยเข้าร่วมโครงการ เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมและต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) พร้อมด้วยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศมาเลเซีย และฟิลิปปินส์นำผู้ประกอบการและเกษตรกรยุคใหม่ ร่วมโครงการ “Agriculture 4.0 in ASEAN” มุ่งเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยและอาเซียนให้สามารถปลดล็อกศักยภาพด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบทางการค้าและขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล ตลอดจนใช้เทคโนโลยีชั้นแนวหน้ามาช่วยปรับปรุงผลผลิต พัฒนาวิธีการทำเกษตร และแก้ไขปัญหาการเกษตรในท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า โครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของ WIPO ที่มุ่งเปิดมุมมองใหม่ให้กับภาคธุรกิจในการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ การบริหารจัดการสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ การต่อยอดเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตร และสร้างโอกาสขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

เนื่องจากเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเกษตรเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน สำหรับในประเทศไทยมีการจ้างงานในภาคเกษตรมากถึงร้อยละ 31 ของแรงงานไทยทั้งหมด แต่ปัจจุบันเกษตรกรต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต้นทุนการผลิต ความผันผวนของราคาสินค้า ฯลฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญของ WIPO เป็นผู้ให้คำปรึกษาเชิงลึกกับผู้ประกอบการแบบตัวต่อตัว

นางอรมน เผยอีกว่า โครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN เริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา และมีกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2568 โดย WIPO ได้คัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Agri-Tech ของไทย 4 ราย เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นด้านการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ

เกษตรกรรม 4.0 ไทยเริ่มแล้ว ! กรมทรัพย์สินทางปัญญา- WIPO หนุน SMEs ขยายตลาดโลก

อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในมิติต่างๆ ประกอบด้วย (1) บจก. เอส ซี เฮลท์เทค จำกัด ในด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ (2) บจก. ไร่ทอง ออร์แกนิกส์ ฟาร์ม จำกัด ในด้านเกษตรอินทรีย์ (3) บจก. ไทยแฮนด์ เอ.ไอ. จำกัด ในด้านหุ่นยนต์สำหรับการใส่ปุ๋ยเพาะปลูก และ (4) บจก. เนรมิต ฟู้ดเทค จำกัด ในด้านเทคโนโลยีอาหารข้าวไร้แป้ง

เกษตรกรรม 4.0 ไทยเริ่มแล้ว ! กรมทรัพย์สินทางปัญญา- WIPO หนุน SMEs ขยายตลาดโลก

ผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย จะได้รับคำปรึกษาเพื่อพัฒนานวัตกรรมต้นแบบและต่อยอดเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับสินค้าและบริการ ผ่านกลไกการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (IP Licensing) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนและขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหลังจากจบโครงการนี้

ทั้งนี้กรมฯมีแผนจะนำนวัตกรรมต้นแบบด้าน Agri-tech ของผู้ประกอบการ มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา ประจำปี 2569 (IP Fair 2026) เพื่อสร้างมูลค่าการซื้อขายสินค้าและเปิดโอกาสในการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ภายในงาน พร้อมต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในกิจกรรมอื่นๆ ของกรมต่อไป

เกษตรกรรม 4.0 ไทยเริ่มแล้ว ! กรมทรัพย์สินทางปัญญา- WIPO หนุน SMEs ขยายตลาดโลก

สำหรับ​ความร่วมมือระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและ WIPO ในครั้งนี้ นับเป็นการเชื่อมโยงนวัตกรรมจากภาควิจัยมาต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยในยุคเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยสอดคล้องกับแนวนโยบาย “IP 4 All” หรือ “ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อทุกคน” โดยเฉพาะ “IP for Business” และ

“IP for Innovation” ที่กรมมุ่งเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้เทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลไกสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีการค้าโลก ทั้งนี้ กรมเชื่อมั่นว่าแนวทาง “เกษตรกรรมไทย 4.0” จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยพลิกโฉมภาคการเกษตรไทยจากการผลิตเชิงปริมาณไปสู่การสร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรม องค์ความรู้ เทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้าและบริการด้านการเกษตรของไทยให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแท้จริง” นางอรมน กล่าว