สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส.จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) พ.ศ.2548 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2552 ขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สูงด้วยการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนตามแนวทางโครงการหลวง ด้วยการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงของโครงการหลวง เพื่อให้โครงการหลวงดำรงอยู่ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน และนำคุณค่าขององค์ความรู้และแนวทางของโครงการหลวง ขยายผลไปยังพื้นที่สูงอื่นๆ ให้ครอบคลุม 20 จังหวัด ในพื้นที่ 54.97 ล้านไร่ ยกระดับเกษตรกรกว่า 1 ล้านคน ปรับเปลี่ยนปลูกพืชเศรษฐกิจ มูลค่าสูงแทนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภารกิจของ สวพส. เป็นหน่วยงานที่ขยายต่อจากโครงการหลวง บนพื้นที่สูง ที่มีความลาดชัน เพื่อช่วยชาวบ้านมีอาชีพ โดยสนับสนุนให้ปลูกพืชมูลค่าสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด ทดแทนการปลูกฝิ่น และพืชไร่หมุนเวียนที่ย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ล่าสุดจะปรับเปลี่ยนจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้หันมาปลูกพืชที่มีตลาดรองรับทดแทน เช่น โกโก้, กาแฟโรบัสตา, แมคคาดีเมีย, อะโวคาโด เสาวรส สตรอว์เบอร์รี หรือปลูกไม้ยืนต้นมีค่า เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลทำให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต
“สาเหตุการปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ จากปัญหาพื้นที่บนดอยไม่มีเอกสารสิทธิ์ ส่งผลทำให้การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถูกพ่อค้ากดราคาตํ่า ทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และยังเป็นต้นเหตุทำให้มีการเผา การใช้สารเคมี ในพื้นที่สูงมากขึ้น ซึ่งทางสถาบันได้เป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะผ่านการค้นคว้าและการวิจัยมาแล้วในการที่จะช่วยทำให้เกษตรกรมีผลผลิตที่สูง และตลาดมีความต้องการที่แน่นอน โดยดึงสหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน ต่างๆ ทั่วประเทศมารองรับ ตลอดจนได้ดึงเอกชนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตเพื่อให้มีรายได้ที่สูงขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องบูรณาการการทำงานทั้งหน่วยงานในกระทรวง และนอกกระทรวง เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”
สำหรับในปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลจัดสรรงบให้ สวพส. กว่า 559 ล้านบาท มีเป้าหมายการดำเนินการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ชุมชนบนพื้นที่สูงอยู่ดีมีสุขอย่างสมดุล ครอบคลุมทุกมิติใน 2,990 กลุ่มบ้าน ใน 18 จังหวัด เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2568 จำนวน 240 กลุ่มบ้าน (เป้าหมายปี 2568 จำนวน 2,750 กลุ่มบ้าน) มุ่งเน้น การสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมสำหรับการพัฒนา พื้นที่สูง ส่งเสริมการเรียนรู้การพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ ตามแนวทางโครงการหลวง กระจายการพัฒนาเชิงพื้นที่และขยายการพัฒนาไปยังพื้นที่ที่มีปัญหาวิกฤต เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมลํ้า เร่งแก้ไขปัญหาสำคัญ เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาฝุ่นควันและ PM2.5 และปัญหาภัยแล้งในพื้นที่สูง และพัฒนาระบบบริการข้อมูลภูมิสารสนเทศเพื่อบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่สูง เป็นต้น
“อย่างไรก็ดีที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดด้านงบประมาณสำหรับงานวิจัยบนพื้นที่สูง ส่งผลให้งานวิจัยบนพื้นที่สูงไม่ทันต่อปัญหา และความต้องการของชุมชน และไม่ครอบคลุมปัญหาหรือปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชเขตหนาวและกึ่งหนาวบนพื้นที่สูง รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนและชุมชนบนพื้นที่สูงของประเทศ ถือเป็นโจทย์ท้าทายของรัฐบาลไม่ใช่แค่กระทรวงเกษตรฯ “นายวิรัตน์ กล่าวย้ำ
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,141 วันที่ 19 -22 ตุลาคม พ.ศ. 2568