ในโลกยุคดิจิทัล การซื้อขายสินค้าออนไลน์เกิดขึ้นทุกวินาที แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, eBay, Alibaba และ Taobao ได้กลายเป็นตลาดโลกที่เปิดโอกาสให้ใครก็เข้าถึงได้ง่าย ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าหลากหลายประเภทได้อย่างสะดวก ตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงสินค้าพืชและการเกษตรที่มีมูลค่าสูง เช่น เมล็ดพันธุ์และต้นไม้ แต่เบื้องหลังการเดินทางของสินค้าเหล่านี้ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ยังมีกระบวนการสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น
การขนส่งสินค้าเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านระบบไปรษณีย์และเครือข่ายโลจิสติกส์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นกลไกสำคัญ เชื่อมโยงการขนส่งกับเครือข่ายกว่า 221 ประเทศทั่วโลก สินค้านำเข้าทุกชิ้นจะต้องผ่านการคัดแยกและตรวจสอบร่วมกันระหว่างไปรษณีย์ไทย และส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ กรมศุลกากร
กระบวนการศุลกากรเริ่มต้นเมื่อสินค้ามาถึงศูนย์ไปรษณีย์ EMS ระหว่างประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบศุลกากร จากนั้นทำการสแกน คัดแยกประเภทสินค้า เพื่อประเมินการชำระอากร และตรวจสอบความเสี่ยงตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้น ไปรษณีย์ไทยจะจัดทำใบแจ้งให้ผู้รับมารับสิ่งของทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ณ ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ หลักสี่ กรุงเทพฯ
สำหรับ “สินค้าที่เกี่ยวข้องกับพืช” เช่น ผงชาเขียวมัทฉะ ใบชาอบแห้ง เครื่องเทศ พริกอบแห้ง พริกไทยป่น พืชอวบน้ำ หรือสาหร่ายอบแห้ง สินค้ากลุ่มนี้จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบศัตรูพืชอย่างเข้มงวด และต้องมีเอกสารสำคัญจากประเทศต้นทาง คือ “ใบรับรองสุขอนามัยพืช” (Phytosanitary Certificate) ตามเงื่อนไขการนำเข้าสินค้า 3 ประเภท ได้แก่ สิ่งต้องห้าม สิ่งกำกัด และสิ่งไม่ต้องห้าม ภายใต้พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการนำเข้าศัตรูพืชที่อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและภาคการเกษตรของไทย
ดังนั้น ก่อนสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพืช ผู้บริโภคควรตรวจสอบเงื่อนไขการนำเข้าให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย และปลอดภัยต่อภาคการเกษตรของประเทศ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ได้ที่ ด่านตรวจพืชไปรษณีย์ ตั้งอยู่ที่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS
เลขที่ 111 หมู่ 3 ซอยแจ้งวัฒนะ 5 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทรศัพท์: 0-2575-1015