KEY
POINTS
ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎรมีทั้งหมด 19 มาตรา ผ่านมติให้ความเห็นชอบในวาระ 2-3 เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา และประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติต่อวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสภาก็จะพิจารณาเป็น 3 วาระเช่นเดียวกัน และต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอมานั้นให้เสร็จภายใน 60 วัน
นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. ... เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงร่าง พ.ร.บ.หรือกฎหมายลำไยว่า เป็นผลไม้ตัวแรกหากมีการบังคับใช้กฎหมาย มั่นใจว่าจะช่วยยกระดับรายได้เกษตรกร ช่วยให้ราคาให้มีเสถียรภาพ รวมถึงจะมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ลำไย (บอร์ด) เข้ามาดูแลตั้งแต่ผู้ปลูกลำไย ไปจนกระทั่งถึงการแปรรูปและส่งออก และในระหว่างการพิจารณาก็ได้ส่งร่างพ.ร.บ.ฯ ส่งให้ทางคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ศึกษาพิจารณาควบคู่กันไป ก็จะมีการตั้งข้อสังเกตเป็นระยะ ทั้งนี้ได้นำข้อสังเกตมาบรรจุรวมทุกข้อไว้แล้ว
ยกตัวอย่างคณะกรรมการยุทธศาสตร์ลำไย (บอร์ด) เดิมมีเกษตรกรนั่งในบอร์ด 5 คน ทางวุฒิสภาแย้งว่าควรจะเพิ่มเป็น 7 คน เพื่อที่จะได้เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่มาจากความต้องการของเกษตรกรโดยแท้จริง
“กฎหมายฉบับนี้ ตามไทม์ไลน์ ทางวุฒิสภาจะต้องพิจาณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ก็คือประมาณ วันที่ 1 มกราคม 2569 ซึ่งก็หวังจะแล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนด เนื่องจากกฎหมายมีแค่ 19 มาตรา การตีความไม่มีความซับซ้อน ไม่มี กองทุน แต่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ลำไย เปรียบเหมือนมีพี่เลี้ยงไว้ดูแลเท่านั้น”
ด้านนายนเรศ ธำรงทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. ...คนที่หนึ่ง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ร่างกฎหมายลำไย เริ่มตั้งแต่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนทำให้เกิดเยียวยาลำไย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันก็หวังว่า สว.จะผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ เพราะโดยเนื้อหาสาระไม่ได้มีงบการเงิน จึงมองว่าไม่น่าจะมีประเด็นที่ สว.จะไม่เห็นชอบ ส่วนใหญ่ในเนื้อหาเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอยู่แล้ว
ดังนั้นหากต่อไปมีการบริหารโดยมีบอร์ดที่มีความรู้โดยเฉพาะทางเข้ามาพิจารณา โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และอาจจะมอบให้รองนายกรัฐมนตรีดูแล คาดว่าจะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกลำไยให้มีความชัดเจนทั้งต้นนํ้า กลางนํ้า และปลายนํ้า ได้รวดเร็วกว่าในอดีต
นายมานพ จินะนา ประธานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) และกรรมการ ในคณะกมธ.วิปสามัญฯ กล่าวว่า หากมีกฎหมายลำไยจะช่วยเกษตรกรได้มากกว่า 2.5 แสนครอบครัว ในพื้นที่ 1.7 ล้านไร่ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวเนื่อง ทั้ง คนเก็บเกี่ยว ไปถึงภาคอุตสาหกรรมแปรรูปรวม 3 ล้านคน ถ้ากฎหมายออกจะช่วยให้เกษตรกรผลิตสินค้ามีคุณภาพ และหากขายได้ราคาดีจะสามารถทำรายได้ถึงแสนล้านบาท
โดยมีหลักการคำนวณคือ หากเกษตรกรผลิตลำไยได้ไร่ละ 1 ตัน (1,000 กก.) ขายเฉลี่ยได้ กิโลกรัมละ 30 บาท จะได้เงิน 3 หมื่นบาท และจะเงินรวมทั้งระบบกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท แต่ทุกวันนี้เฉลี่ยได้ 1 หมื่น-2 หมื่นล้านบาทต่อปี จากเกษตรกรขายสินค้าได้ในราคาที่ไม่เป็นธรรม ในระหว่างนี้อยากจะฝากถึงร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สรรหาบอร์ดที่เป็นตัวแทนเกษตรกร จำนวน 7 คน ไว้ก่อน พอประกาศราชกิจจานุเบกษา จะได้แต่งตั้งบอร์ดขับเคลื่อนทันที
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,137 วันที่ 5 - 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568