สภาฯ มีมติ เห็นชอบ 306 เสียง ผ่านร่างยุทธศาสตร์ลำไย วาระ 3

17 ก.ย. 2568 | 12:22 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2568 | 12:24 น.

มติสภาฯ 306 เสียง เห็นชอบ ร่างยุทธศาสตร์ลำไย วาระ 3 ฉลุย เร่งส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุด

KEY

POINTS

  • ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ยุทธศาสตร์ลำไย ในวาระที่ 3 ด้วยคะแนนเสียง 306 ต่อ 1 เสียง
  • ขั้นตอนต่อไปคือการส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้วุฒิสภาเป็นผู้พิจารณา ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย
  • กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองผลผลิต ดูแลราคาให้เป็นธรรม และสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยทั้งระบบ

นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. ... เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าวันนี้ ( 17 ก.ย.68 ) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. ....   เห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 306 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง ,งดออกเสียง 1 เสียง  และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ผ่านวาระ 3 

สภาฯ มีมติ เห็นชอบ 306 เสียง ผ่านร่างยุทธศาสตร์ลำไย วาระ 3

หลังจากนี้ทางสภาผู้แทนราษฎรจะต้องส่งรายงานการร่างพระราชบัญญัติลำไย พ.ศ. .... ส่งไปให้วุฒิสภา พิจารณาต่อไป และหากวุฒิสภาเห็นชอบตามที่สภาผู้แทนได้ส่งรายงานไปก็ดำเนินการส่งประกาศราชกิจจานุเบกษาใช้เป็นกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ดี หากวุฒิสภาในการแก้ไขก็ต้องส่งกลับมาที่สภาผู้แทนราษฎรว่าเห็นชอบตามที่วุฒิสภาแก้ไขหรือไม่เห็นชอบก็ดำเนินการส่งประกาศประกาศใช้เป็นกฎหมายแต่ถ้าเห็นชอบก็ต้องมีการตั้งกรรมการเพื่อต่อไป

สภาฯ มีมติ เห็นชอบ 306 เสียง ผ่านร่างยุทธศาสตร์ลำไย วาระ 3

“ลำไยไม่ใช่เพียงพืชเศรษฐกิจของลำพูน แต่คืออนาคตของพี่น้องเกษตรกร หากในอนาคต พระราชบัญญัติลำไย (พ.ร.บ.ลำไย) เกิดขึ้นจริง จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชาวสวน เพราะจะทำให้เกิดการคุ้มครองผลผลิต มีมาตรการดูแลราคาที่เป็นธรรม มีการสนับสนุนการตลาด และสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรลำไยทั้งระบบ” นายรังสรรค์

ที่มาของการเสนอร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. ...

“ลำไย” เป็นผลไม้ที่มีการส่งออกเป็นลำดับ 3 ของประเทศไทย แต่เกษตรกรกรผู้ปลูกลำไยกลับมีรายได้ไม่ดี ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนลำไยและผู้ประกอบกิจการลำไย จึงจำเป็นต้องจัดให้มีการทำนโยบายและยุทธศาสตร์ลำไยเป็นเป้าหมายการพัฒนาการผลิตลำไยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยในการจัดทำการกำหนดเป้าหมาย ระยะเวลาที่จะบรรลุเป้าหมาย และสาระที่พึงมีในยุทธศาสตร์เกี่ยวกับส่งเสริมและพัฒนากิจการเกี่ยวกับลำไยของประเทศ จึงมีความจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้