KEY
POINTS
วันนี้ (17 กันยายน 2568) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แถลง kick off การพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลสู่โลกการค้ายุคใหม่ ในงาน "เสริมแกร่งทัพการค้าไทย ด้วยบริการดิจิทัล ยุค AI" เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก
โดยมีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานและเป็นสักขีพยานการลงนาม MOU 2 ฉบับ ได้แก่ 1. การพัฒนา AI Chatbot ผู้ช่วยอัจฉริยะด้านการค้า ระหว่าง 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งจะบูรณาการข้อมูลด้านการค้าร่วมกัน
2. การเชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้งานและข้อมูล SMEs ระหว่าง DITP และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่ SMEs ทั้งนี้ตั้งเป้าพัฒนา AI Chatbot แล้วเสร็จในปี 2569
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของกระทรวงที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในปัจจุบัน โดยเฉพาะ AI สาขา Generative AI จะเป็น change agent สำคัญของโลกการค้ายุคใหม่ ยกระดับการให้บริการข้อมูลการค้าแก่ผู้ประกอบการและประชาชนได้อย่างดี
นอกจากนี้ การพัฒนา AI Chatbot ผู้ช่วยอัจฉริยะด้านการค้า ครั้งนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่สามารถทะลายไซโลระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นรูปธรรมของกระทรวง โดยมีการบูรณาการข้อมูลให้อยู่ในฐานเดียวกัน แก้ pain point ของผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาต้องติดต่อหลายหน่วยงานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำการค้าอย่างครบถ้วน
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า การพัฒนา AI Chatbot ครั้งนี้มุ่งยกระดับการให้บริการข้อมูลการค้า ช่วยลดอุปสรรคของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในการเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ช่วยลดระยะเวลา เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ส่งออกรายเดิม และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ที่อยากเริ่มธุรกิจส่งออกรายใหม่
นอกจากนี้ AI Chatbot จะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพมาตรฐานในการให้บริการข้อมูลคำปรึกษาด้านการค้าของ DITP และหน่วยงานพันธมิตร ซึ่งมีผู้ขอรับข้อมูลคำปรึกษารวมกัน 180,000 – 200,000 ครั้งต่อปี
ทั้งนี้ กรมฯ ได้รับการสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาระบบ AI Chatbot จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยมีมหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นผู้ร่วมดำเนินการร่วมกับ DITP
สำหรับ MOU ฉบับที่ 2 เป็นความร่วมมือในการเชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้งานระบบดิจิทัลและข้อมูลผู้ประกอบการ SMEs ระหว่างระบบ DITP Single Sign-on (DITP SSO) กับ SME One ID ของ สสว. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานระบบของทั้งสองหน่วยงาน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 255,000 ราย ให้สามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลที่สำคัญระหว่างกันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ครบวงจร โดยจะสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลของทั้งสองหน่วยงานได้รวม 18 บริการ
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เปิดตัวบริการดิจิทัลใหม่ล่าสุดอีก 2 ระบบ ได้แก่ โมบายแอปพลิเคชัน DITP ONE ที่รวบรวมบริการดิจิทัลของกรมไว้ในที่เดียวในลักษณะ One Stop Service เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้ประกอบการในยุคดิจิทัลที่นิยมใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ และระบบ DITP My Scores ซึ่งเป็นระบบวิเคราะห์ความพร้อมและศักยภาพในการส่งออกของผู้ประกอบการ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองได้ และจะได้รับคำแนะนำกิจกรรมหรือบริการที่เหมาะสม เพื่อยกระดับศักยภาพทางธุรกิจได้อย่างตรงจุด