ราคาสินค้าเกษตร 8-12 ก.ย. ข้าวเปลือกทรงตัว ยางพาราขยับขึ้นเล็กน้อย สุกรปรับตัวลดลง

13 ก.ย. 2568 | 10:34 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2568 | 10:52 น.

สัปดาห์ 8–12 กันยายน 68 ราคาข้าวเปลือกยังคงทรงตัว ขณะที่ยางพาราเริ่มปรับขึ้นเล็กน้อยตามความต้องการตลาด ส่วนราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มลดลงเล็กน้อยในบางภูมิภาค

KEY

POINTS

  • ราคาข้าวเปลือกโดยรวมยังคงทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยต้องติดตามสถานการณ์ราคาในตลาดโลกต่อไป
  • ยางพาราปรับราคาสูงขึ้นเล็กน้อยตามความต้องการของตลาด ทั้งยางแผ่นดิบและน้ำยางสดมีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
  • ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับตัวลดลงในบางภูมิภาค โดยมีราคาซื้อขายอยู่ในช่วง 56-68 บาทต่อกิโลกรัม

“ฐานเศรษฐกิจ” เกาะติดราคาสินค้าเกษตรสำคัญของไทยในสัปดาห์ 8–12 กันยายน 2568 ส่วนใหญ่ยังทรงตัว โดยเฉพาะข้าวเปลือกที่ยังยืนราคาคงที่ตามสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ยางพาราเริ่มปรับขึ้นเล็กน้อยตามความต้องการตลาด ส่วนราคาสุกรหน้าฟาร์มลดลงบางภูมิภาค สะท้อนแรงกดดันทั้งภายในและปัจจัยจากตลาดโลก

 

ข้าวเปลือก : ราคาทรงตัว

สมาคมโรงสีข้าวไทย รายงานราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15%  ราคาต่ำสุด-สูงสุดเฉลี่ยที่ 6,400-7,000 บาทต่อตัน ส่วนความชื้นที่ 25% เฉลี่ยที่ 5,200-5,800 บาทต่อตัน

โดยภาพรวมราคายังทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน ส่วนในสัปดาห์หน้าคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาข้าวไทยในตลาดโลกจะเป็นอย่างไร  ซึ่งจะมีผลต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศ

ข้าวสาร : ราคาทรงตัว

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานภาวะตลาดซื้อขายข้าวสารส่งออก (F.O.B Prices) โดยข้าวสาร 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ยืนราคาที่ตันละ 387 ดอลลาร์สหรัฐ และปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ยืนราคาที่ตันละ 333 ดอลลาร์สหรัฐ

ด้านราคาข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ทรงตัวที่กระสอบละ 1,100 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ยืนราคาที่กระสอบละ 930 บาท

แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว

ยางพารา : ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ข้อมูลการยางแห่งประเทศไทย ยางแผ่นดิบ (ราคาท้องถิ่น) เฉลี่ยที่ 56.00- 56.70 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) น้ำยางสด(ณ โรงงาน) เฉลี่ยที่ 56.00-56.20 บาทต่อ กก.

เทียบกับสัปดาห์ก่อน (1-5 ก.ย.) ยางแผ่นดิบเฉลี่ยที่ 55.70-56.25 บาท ต่อ กก. และน้ำยางสด เฉลี่ยที่ 55.45 ถึง 55.80 บาทต่อ กก.

แนวโน้ม : คาดปรับขึ้นเล็กน้อย

สุกร : ราคาลดลง

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (สัปดาห์ที่ 37/2568) ประจำวันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 ระดับราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มอยู่ในระดับ 56-68 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)

 ภาคตะวันตก 56 – 58 บาทต่อ กก.

 ภาคตะวันออก 56 – 60 บาทต่อ กก.

 ภาคอีสาน 63 – 64 บาทต่อ กก.

 ภาคเหนือ 66 บาทต่อ กก.

 ภาคใต้ 68 บาทต่อ กก.

 ด้านลูกสุกรน้ำหนัก 16 กก.ต่อตัว ราคาอยู่ที่ 1,600 บาท (บวก/ลบ 60)

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว

ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว

กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ รายงานราคาเฉลี่ยสินค้าปศุสัตว์ที่เกษตรกรขายได้ ณ วันที่ 9 กันยายน 2568 โดย ไก่เนื้อ ราคาทรงตัวอยู่ที่ กก.ละ 37 – 38 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ อยู่ที่ตัวละ 18.50 บาท และลูกไก่ไข่ ตัวละ 28.00 บาท

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว

ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว

 เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ยืนราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ฟองละ 3.60 บาท

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ : ราคาทรงตัว

 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ สัปดาห์นี้ ยืนราคาอยู่ที่หาบละ 588 บาท (60 กก.) หรือกิโลกรัมละ 9.80 บาท ซึ่งเป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าที่นครชิคาโก (CBOT) วันที่ 11 กันยายน 2568 สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่า สัญญาข้าวโพด รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2568 เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.66% ปิดที่ 4.1975 ดอลลาร์/บุชเชล กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) โดยนักวิเคราะห์คาดว่า USDA จะปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐ หลังจากช่วงปลายฤดูร้อนที่มีสภาพอากาศแล้งจัด โดยผลผลิตข้าวโพดระยะต้นที่ออกมาต่ำกว่าคาดยังคงช่วยหนุนราคา ขณะเดียวกันการส่งออกข้าวโพดสหรัฐ ที่คึกคักก็ช่วยพยุงตลาด และทำให้ราคาปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อสัปดาห์ก่อน

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว

กากถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว

กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ยืนราคาที่ กก.ละ 14.00 บาท ภาวะการเพาะปลูกฝั่งสหรัฐอเมริกา สภาพอากาศยังคงดี คาดการณ์การเก็บเกี่ยวผลผลิตอาจจะเริ่มได้เร็วขึ้น ขณะที่คาดการณ์การซื้อถั่วเหลืองของประเทศจีนจากอาร์เจนตินาและอุรุกวัย สำหรับผลผลิตในปี 2025/26 อาจสูงสุดถึง 10 ล้านตัน ซึ่งจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าที่นครชิคาโก (CBOT) วันที่ 11 กันยายน 2568 สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่า สัญญาถั่วเหลืองรอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 2568 เพิ่มขึ้น 8.25 เซนต์ หรือ +0.80% ปิดที่ 10.3350 ดอลลาร์/บุชเชล แม้สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น แต่ความต้องการจากจีนที่ซบเซาอันเป็นผลจากสงครามการค้ากับสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของตลาดถั่วเหลือง

นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) อาจปรับลดประมาณการณ์การส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐ ในปีการตลาด 2568/2569 ซึ่งเกษตรกรสหรัฐ สูญเสียรายได้จากการขายถั่วเหลืองไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากจีนลดการนำเข้าในช่วงฤดูกาลขายหลักของผลผลิตถั่วเหลือง

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะยืนแข็ง

ปลาป่น : ราคาทรงตัว

ราคารับซื้อปลาป่นที่จีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปริมาณการซื้อหน้าท่าเรือยังคงลดลง และปริมาณสต็อกปลาป่นปรับตัวลดลงเช่นกัน

สำหรับสถานการณ์ราคาปลาป่นในประเทศยังคงทรงตัว โดยปลาป่นเกรดกุ้ง อยู่ที่กิโลกรัมละ 44 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป อยู่ที่กิโลกรัมละ 38.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน อยู่ที่กิโลกรัมละ 33.70 บาท

ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป อยู่ที่กิโลกรัมละ 35.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 32.70 บาท

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว