ควันหลงปิดหลักสูตร วกส. รุ่น 6 ‘อรรถกร’ ฝากความหวังพัฒนาเกษตรไทยให้ก้าวไกล

“ฐานเศรษฐกิจ” เก็บควันหลงพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 6 พร้อมกล่าวปัจฉิมโอวาทและแสดงความยินดีแก่ผู้สำเสร็จหลักสูตร โดยมี ดร.จรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี เป็นประธาน และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมผู้บริหารหลักสูตร และผู้ผ่านการอบรม วกส.รุ่นที่ 1 – 5 เข้าร่วมในพิธีฯ อย่างอบอุ่น และมิตรภาพ พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจสู่รุ่นน้อง เดินหน้าพัฒนาเกษตรไทย

เชื่อมโยงคนเก่ง คนดี ร่วมขับเคลื่อนภาคเกษตร

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรฯ ว่า การก้าวขึ้นสู่สถานะผู้บริหารระดับสูงได้นั้น ล้วนต้องผ่านความสำเร็จในมิติต่างๆ มาแล้วอย่างมากมาย ทั้งในฐานะผู้บริหาร นักวิชาการ นักวิจัย ผู้ประกอบการ หรือผู้กำหนดนโยบายด้านการเกษตร ซึ่งผมเชื่อว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรนี้ไม่ได้วัดเพียงจากความรู้ที่ได้รับ แต่ยังสะท้อนถึงการเปิดใจรับฟัง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่กว้างขวางและเข้มแข็ง เป็นการเชื่อมโยงคนเก่ง คนดี และคนมีวิสัยทัศน์ ให้มาร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตของการเกษตรไทยอย่างรอบด้าน และสามารถนำความรู้ความสามารถมมใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผมขอเน้นย้ำว่าการเกษตรไทยในยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการความรู้จากทุกภาคส่วน การมีเครือข่ายที่มีคุณภาพเช่นนี้จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและโครงการต่าง ๆ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ และสร้างความสง่างามให้กับหลักสูตรได้ต่อไป

เตรียมเปิดรับสมัครรุ่น 7 ปั้นผู้นำเกษตรแห่งอนาคต

นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (ARDA) กล่าวว่า (วกส.) ผ่านมา 6  รุ่นแล้ว มีผู้สำเร็จการศึกษาจากภาคเกษตรและภาคข้าราชการ และภาคการเมืองในภาคเกษตร รวมกัน 600 คน เป็นกลุ่มที่มีพลังการขับเคลื่อนในภาคเกษตรอย่างดียิ่งเลย และตอนนี้เริ่มมีการพูดคุยกันว่า รุ่นที่ 7 จะเปิดเมื่อไร แล้วรูปแบบจะเป็นอย่างไร เพราะตอนรุ่นที่ 1-6 เป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิเกษตราธิการ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (โดยเฉพาะสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ) และ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)ตกลงไว้แค่ 6 รุ่น หลังจากนี้พอประสบความสำเร็จ คนสนใจกันมาก ถ้าจะทำต่อก็ต้องคุยกันใหม่ แต่คราวนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน หอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรม สนใจและสอบถามมาว่าจะร่วมได้ไหม ดังนั้นรูปแบบจะต้องคุยกัน

ที่สำคัญจุดแข็งของหลักสูตรนี้คือ เป็นเวทีที่หลอมรวมทุกภาคส่วนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการบูรณาการ และการเชื่อมโยงที่เกี่ยวอับอาชีพเดียวกัน ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้จากงานวิจัยและเชื่อมโยงจากฝ่ายผลิตไปฝ่ายธุรกิจ สามารถตอบโจทย์ได้หลายเรื่อง เช่นกระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการสร้างองค์ความรู้ และให้ไปเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่ตั้งโจทย์ผิดตลอด เพราะส่วนใหญ่จะไปมองเชิงวิชาการ

แต่พอมีธุรกิจ ก็มาแนะนำว่าจะวิจัยตัวไหน หรือควรจะผลิตแบบไหน จะสร้างตลาดอย่างไร จากตรงนี้เป็นประโยชน์มากแบบปากต่อปากชวนกันมาเรียนส่งผ่านต่อทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แล้วคิดว่าถ้ารุ่น 7 จะจัดขึ้น คาดว่าจะเปิดหลักสูตรประมาณเดือนเมษายน ปี 2569 ถ้าสนใจอยากสมัครเรียนก็ติดต่อสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ได้

 

 

 

ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการ ARDA  กล่าวว่า หลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง คือสิ่งที่ได้มากที่สุดก็คือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน บางคนเป็นธุรกิจเกษตรที่ไม่เคยเปิดให้ใครเข้ามาดู พอมาเป็นพี่น้องในหลักสูตรทำให้เปิดใจ เราก็จะได้เห็นอินโนเวชันที่ซ่อนไว้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็ไม่มีใครให้ได้ นอกจากเพื่อน เพราะฉะนั้นการสร้างเพื่อนดีที่สุด พร้อมกับสร้างอิมแพ็คด้านเศรษฐกิจการเกษตรของประเทศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

“รุ่น 7  มีแน่นอน คาดว่าจะเปิดรับประมาณเดือนตุลาคม เพื่อเตรียมตัวอบรมในปี 2569 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือเมษายน คาดวาปีนี้จะเปิดรับสมัครขยายเป็นรุ่นเล็ก ก็คือ ระดับผู้อำนวยการสำนัก เพราะผู้บริหารจะให้นโยบายแต่การปฎิบัติอยู่ในระดับล่าง เพราะฉะนั้นอยากให้คนระดับล่างเข้ามาสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจจะได้เติบโตไปพร้อมกัน ดังนั้นใครสนใจก็ต้องรีบสมัครไว เพราะเต็มทุกปี โดยรุ่นเฉลี่ยจะรับ 96 คนเท่านั้น”

 

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า ในขณะที่ภาคราชการที่มาทำงานตามนโยบายของฝ่ายการเมือง เพราะฉะนั้นการทำงานตามนโยบายและปฎิบัติตามนโยบายตามกรอบและแผนงานอย่างเดียว การแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกร หรือการที่จะไปทำการค้าขาย หรือการผลิตที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน ปริมาณที่คุ้มทุน ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้จะต้องได้จากทุกภาคส่วน

"มีผู้เข้ามาเรียนมาศึกษามาอบรมในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ผลิต และผู้บริโภค และผู้ส่งออกต่างๆ ก็ครอบคลุมทั้งหมด เพราะฉะนั้นหลักสูตรนี้จะเป็นการพัฒนาวิธีคิดเพื่อที่จะนำไปใช้ให้กระทรวงเกษตรฯในการพัฒนาพี่น้องเกษตรกรให้มีความยั่งยืนในอาชีพและสามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด"

 

สิ่งที่ได้รับเกินกว่าความรู้ในห้องเรียน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดี วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และในฐานประธาน วกส.รุ่น 6  กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้ามาอบรม ว่า ผมดูแลในเรื่องสุขภาพ ที่ผ่านมาได้รับประทานเรื่องผักและผลไม้เยอะมาก แต่อีกด้านก็มีข่าวเรื่องสารตกค้างในทางการเกษตรเยอะมากเช่นเดียวกัน ซึ่งพอได้เข้ามาแล้วก็มีความเข้าใจในเชิงวิชาการที่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ในนั้นทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการใช้สารเคมีที่ถูกต้อง การใช้ปุ๋ยชีวภาพ หรือการใช้จุลินทรีย์ เพื่อจะสื่อสารไปถึงเกษตรกร ก็ได้เห็นภาคปฎิบัติในเชิงสื่อสารก็ค่อนข้างมีความจำกัด

หลังได้มาเรียนแล้วก็พยายามบูรณาการทำงานในส่วนภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ทราบว่าปัญหาภาคเกษตรมีปัญหาอะไรบ้าง รวมทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เกิดจากเกษตรกรไม่รู้การตลาด จะปลูกซ้ำเดิม ไม่รู้ว่าปลูกอะไรแล้วจะขายได้ ไม่ง้อราคาตลาด นั่นคือปัญหา แล้วจะปลูกอะไรที่แตกต่างกว่าคนอื่นก็ไม่กล้าทำ รวมทั้งเรื่องต้นทุน ก็ต้องลงทุน หากนายทุนมองว่าคุ้ม ก็จะลงทุนทันที  เพราะใช้ไป 3-4 ปีก็คุ้มทุน แต่เกษตรกรก็ยากเพราะไม่มีเงินลงทุน เป็นต้น

ปัญหาแรงงาน ที่เหมาะกับภาคเกษตร คนรุ่นใหม่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะรู้สึกว่าชีวิตยากลำบาก ส่งผลทำให้พื้นที่เกษตร ว่างเปล่าเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีคนทำ เป็นการบ้านว่าจะทำอย่างไรที่จะสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ให้ทำงานในภาคเกษตรสานต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ โดยทางกระทรวงเองก็พยายามผลักดันเรื่องเหล่านี้ผลักดันในหลักสูตรเพื่อสร้างเครือข่าย แต่โดยส่วนตัวมองว่าจุดอ่อนของหลักสูตรทำอย่างไรให้เชื่อมโยงเร็วและไว  เพื่อที่จะทำให้นโยบายการเชื่อมโยงตามเป้าหมายของหลักสูตร เริ่มนำร่อง รวมรุ่น 1-6  เป็นปีแรก

“อยากฝากถึงแกนนำเกษตรกร ให้ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ในหลักสูตรนี้ เพราะทุกคนมีศักยภาพที่จะเชื่อมโยงและต่อยอด ซึ่งการเข้ามาเรียนไม่เพียงช่วยขยายมุมมองและศักยภาพของตนเอง แต่ยังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะนำไปพัฒนาชุมชนและภาคการเกษตร ขณะเดียวกันยังเชื่อมั่นว่า คอนเน็กชันที่เกิดขึ้นระหว่างกัน จะสร้างโอกาสจริงให้กับอนาคตของเกษตรกรไทย” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์มาศ กล่าวทิ้งท้ายว่า  

ดร.สงกรณ์ เสียงสืบชาติ senior technical consultant   บริษัท จีไอเอส จำกัด และในฐานะผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 6  กล่าวว่า ส่วนตัวมีความสนใจด้านการเกษตรอยู่แล้ว แม้ที่ผ่านมาอาจยังไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนรู้อย่างจริงจังนัก เมื่อทราบว่ามีหลักสูตรนี้เปิดสอน จึงรู้สึกสนใจทันที อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารให้เข้ามาศึกษา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง

หลังจากได้เข้าร่วมเรียนรู้ รู้สึกประทับใจและสนุกกับการเรียนการสอนอย่างมาก เพราะไม่เพียงได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนผู้เข้าร่วมหลากหลายสาขา แต่ยังได้สัมผัสประสบการณ์จริงจากเกษตรกรตัวจริงที่สะท้อนให้เห็นภาพการทำงานในอาชีพเกษตรอย่างชัดเจน สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นและทึ่ง พร้อมทั้งได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับนวัตกรรมด้านการเกษตร ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้และต่อยอดได้อย่างมีคุณค่า

ปิดท้าย นายเปรมศักดิ์ วนัชสุนทร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และในฐานะ วกส.รุ่น 5 กล่าวถึงความรู้สึกว่า  ตอนแรกคิดว่ามาเรียนคงเป็นเรื่องสนุกๆ แต่สิ่งที่ได้รับเกินกว่านั้นมาก ทั้งความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน และยังสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ทั้งในงานและในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญยังได้เพื่อนและพี่ๆ ที่เป็นกัลยาณมิตร คอยช่วยเหลือและแบ่งปันประสบการณ์กันอย่างอบอุ่น ทำให้ผมรู้สึกว่าการมาเรียนที่นี่มีแต่ได้ จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันในหลักสูตรวกส.