ผ่า 3 ปัจจัยพลิกโฉมการค้า 'ฉันทวิชญ์' ประกาศ FTA ดันเศรษฐกิจใหม่

28 ส.ค. 2568 | 01:21 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2568 | 02:36 น.

'ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์' รมช.พาณิชย์ เปิด 3 ปัจจัยพลิกโฉมการค้าโลก เร่งยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยสู่ตลาดคุณภาพ พร้อมเดินหน้า FTA หนุน Data Center และพลังงานสะอาด

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “ITD Research Forum 2025” จัดโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD ภายใต้แนวคิด Trade Transforming, Connecting Future มุ่งเป็นเวทีกลางทางวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสนอผลงานวิจัยด้านการค้าและการพัฒนา 

นายฉันทวิชญ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์การค้าโลกว่า กำลังเผชิญการเปลี่ยนผ่านสำคัญจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  1. การแข่งขันด้านเทคโนโลยีของมหาอำนาจโลก
  2. แนวนโยบายการค้าที่พึ่งพากฎระหว่างประเทศน้อยลง แต่หันมาใช้การเจรจาระหว่างประเทศแบบทวิภาคมากขึ้น โดยมีเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือต่อรอง
  3. การที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องเร่งปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานใหม่ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม แรงงาน และการตรวจสอบย้อนกลับวัตถุดิบ

"โจทย์สำคัญของประเทศไทยคือ เราจะยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไร งานวิจัยและการระดมสมองในงานนี้ถือเป็น input สำคัญที่กระทรวงพาณิชย์จะนำไปประยุกต์ใช้ในการกำหนดนโยบายต่อไป" นายฉันทวิชญ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลงานวิจัยที่นำเสนอครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น การใช้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรี (FTA) การวัดความพร้อมของไทยในการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการใช้ประโยชน์จากระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการกำหนดกลยุทธ์ด้านการค้าต่างประเทศของไทย

สำหรับแนวทางการปรับตัวของเศรษฐกิจไทยว่า ต้องดำเนินการควบคู่กันใน 2 มิติหลัก คือ

  1. การสร้างสินค้าและบริการที่มีเอกลักษณ์และมูลค่าเพิ่มสูง เช่น สินค้าเกษตรนวัตกรรม ควบคู่กับการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ Data Center, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีขั้นสูง 
  2. การยกระดับมาตรฐานการผลิต เพื่อให้สามารถเจาะตลาดคุณภาพอย่างสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้ได้ โดยเฉพาะมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน

 

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

"ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านอาหารและเกษตร แต่ก็ต้องเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านพลังงานสะอาดที่จะป้อนให้ Data Center ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนประเทศไทยสามารถเดินหน้าได้ทั้งอาหารและเทคโนโลยีไปพร้อมกัน" นายฉันทวิชญ์ ระบุ

ทั้งนี้ในด้านการเจรจาการค้าเสรี (FTA) กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการกระจายตลาดและลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง โดยการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯ จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยผนวกเข้ากับห่วงโซ่การผลิตโลก และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในสาขาใหม่ เช่น AI, Data Center และพลังงานสะอาด

 

ผ่า 3 ปัจจัยพลิกโฉมการค้า 'ฉันทวิชญ์' ประกาศ FTA ดันเศรษฐกิจใหม่

 

อย่างไรก็ตาม การเจรจา FTA ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตลาดสินค้า แต่คือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตโลก ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจไทย การปรับตัวจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้เกิดการปรับตัวอย่างราบรื่นและเสียหายน้อยที่สุด