“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

18 ส.ค. 2568 | 06:53 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2568 | 06:53 น.

เปิดแผนปฏิบัติการ “เครือซีพี” เร่งเครื่อง Carbon Neutral 2030 ดึงทุกธุรกิจในเครือร่วมมือนำนวัตกรรม–พลังงานสะอาดเสริมแผนพร้อมรับฟังเสียงจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย

จากประชุมคณะกรรมการความยั่งยืนเครือเจริญโภคภัณฑ์ครั้งล่าสุดที่มีนายศุภชัยเจียรวนนท์ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นประธานฯได้มีการสรุปเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนขององค์กร (Carbon Neutral) ภายในปี 2573 ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญและเร่งด่วนของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

สำนักบริหารความยั่งยืนธรรมาภิบาลและสื่อสารองค์กรบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด จึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการหรือworkshop เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกพร้อมให้แต่ละกลุ่มรายงานสถานการณ์ครึ่งปีแรกของปี 2568 การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีชื่อว่า “C.P.Group Carbon Neutral 2030 ลงมือทำเพื่อเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่Carbon Neutral” โดยมี ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด ได้ตอกย้ำว่าการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้นจะสำเร็จได้ต้องขับเคลื่อนทั้งองคาพยพ

นอกจากนี้ผู้บริหารระดับสูงด้านความยั่งยืนจากกลุ่มธุรกิจต่างๆได้แก่บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือซีพีเอฟบมจ.ซีพีออลล์บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่นบมจ.ซีพีแอ็กซ์ตร้าและกลุ่มธุรกิจในเขตประเทศจีนได้ฉายภาพคืบหน้าในการเดินหน้าตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเครือฯสู่ความเป็นกลงทางคาร์บอนโดยมีผู้เชี่ยวชาญผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร,

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,ภาควิชาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นร่วมในการประชุมฯครั้งนี้เพื่อให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ซึ่งจะช่วยในการผลักดันให้การเดินหน้ามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของเครือเจริญโภคภัณฑ์สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัดเปิดเผยว่าการเดินหน้าสู่ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Carbon Neutral) ภายในปี 2573 ตามนโยบายของนายศุภชัยเจียรวนนท์ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ถือเป็นโจทย์ท้าทายเนื่องจากธุรกิจยังต้องเติบโตควบคู่ไปด้วยองค์กรจึงต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและจริงจังการบรรลุเป้าหมายCarbon Neutral 2030 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ต้องขับเคลื่อน “ทั้งองคาพยพ” ทุกกลุ่มธุรกิจต้องผนึกกำลัง

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

ทั้งนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับประเด็นClimate Resilience  และได้กำหนดโรดแมปสำคัญอาทิเพิ่มSolar และระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) ลดการปล่อยจากขนส่งเสริมด้วยพลังงานชีวภาพจากBiomass และBiogas ครอบคลุมScope 1 และ 2 ขณะที่Scope 3 และภาคเกษตร (FLAG) ยังต้องมีแผนเสริมเพื่อบรรลุNet Zero อย่างสมบูรณ์

 

ด้านบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือซีพีเอฟได้ฉายภาพถึงการเดินหน้าสู่Net-Zero ด้วย 4 กลยุทธ์อัจฉริยะครอบคลุมทั้งซัพพลายเชนโดยนางจีระณีจันทร์รุ่งอุทัยHead of Global Net-Zero กล่าวให้เห็นถึงแผนสู่Net-Zero ภายใต้มาตรฐานScience Based Targets (SBTi) และNet-Zero Standard  พร้อมระบุว่าซีพีเอฟกำหนดเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในภาคการเกษตร (FLAG) และนอกภาคการเกษตร (Non-FLAG) อย่างมีระบบโดยขับเคลื่อนผ่าน 4 กลยุทธ์อัจฉริยะได้แก่C – Carbon Reduction from Sustainable Sourcing

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

มุ่งจัดหาวัตถุดิบปลอดการตัดไม้ทำลายป่า 100% และตรวจสอบย้อนกลับได้, P – Power Circulation ใช้พลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า, F – Future Generation นำระบบผลิตและอาคารอัจฉริยะด้วยAutomation, AI และIoTมาลดคาร์บอน, และNet-Zero Network  ร่วมมือกับคู่ค้าลูกค้าและพันธมิตรเพื่อขยายผลสู่ทั้งอุตสาหกรรมโดยมีมาตรการสำคัญครอบคลุมการเพาะปลูกคาร์บอนต่ำการเพิ่มพลังงานสะอาดการจัดการของเสียและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยั่งยืนเพื่อให้การลดคาร์บอนเกิดขึ้นอย่างครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

มร.หลิวอี้หัว (Liu Yihua) และนางสาวเฟิงหนาน (Feng Nan) ผู้แทนกลุ่มธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์เขตประเทศจีนกล่าวถึงแผนการสู่Carbon Neutral 2030 ระบุว่า “การดำเนินงานด้านความยั่งยืนในประเทศจีนมีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 32% และเดินหน้าสู่Carbon Neutral 2030 ผ่านการใช้พลังงานสะอาดโดยฟาร์มทั้ง 19 แห่งติดตั้งโซลาร์เซลล์แล้วและร่วมกับAltervimขยายการผลิตพลังงานรวมถึงปรับปรุงกระบวนการผลิตเช่นพิมพ์เลเซอร์บนเปลือกไข่แทนสติ๊กเกอร์และปรับระบบทำความเย็นช่วยลดคาร์บอนได้กว่า 30,000 ตันต่อปีพร้อมลดต้นทุนขณะเดียวกันยังพัฒนานวัตกรรมหม้อต้มไอน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ไบโอแก๊สส่งเสริมเกษตรหมุนเวียนและผลักดันมาตรฐาน “โรงงานสีเขียว”โดยพร้อมเข้าร่วมตลาดคาร์บอนเครดิตหากมีการพัฒนาในจีน

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

นายอาคมอาจแสงผู้จัดการทั่วไปอาวุโสสำนักบริหารความยั่งยืนองค์กรบริษัทซีพีออลล์จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ซีพีออลล์มีเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2573 เช่นเดียวกับเครือฯและได้วางแผนยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงโดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสุทธิให้ได้ประมาณ 480,000-500,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2573  ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวประกอบด้วย 1) ลดการใช้พลังงานลงโดยผ่านมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทั่วทั้งองค์กร  2) ลดความสูญเปล่าจากการใช้พลังงานทั่วทั้งองค์กรลง 3) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

4) ลดการรั่วไหลและปรับปรุงสารทำความเย็นให้มีค่าศักยภาพทำให้โลกร้อนต่ำ(Low GWP) ซึ่งทั้ง 4 มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะทำให้การปล่อยก๊าชเรือนกระจกลดลงประมาณ 27-30% จากการดำเนินธุรกิจตามปกติ(BAU)และมาตรการที่  5) การจัดเตรียมคาร์บอนเครดิตและทางเลือกอื่นๆเพื่อนำมาขดเชยในส่วนการปล่อยก๊าชเรือนกระจกที่คงเหลือ” ซึ่งแผนงานดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการอย่างเข้มข้นตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นมาโดยสรุปเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ของซีพีออลล์คือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยความพยายามตนเองลง  27-30% โดยประมาณและชดเชยด้วยคาร์บอนเครดิตหรือทางเลือกอื่นๆอีกประมาณ 70-73% ของปริมาณการปล่อยทั้งหมด

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

ดร.อนันต์ วัชรพงษ์วินิจ หัวหน้าคณะทำงานด้านClimate Resilience บริษัทซีพีแอ็กซ์ตร้าจำกัด (มหาชน) (Makro และLotus’s) ระบุว่าธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกมีความท้าทายด้านการใช้พลังงานสูงจึงเร่งใช้พลังงานทดแทนเช่นโซลาร์รูฟทอปพร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพและนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างระบบอัตโนมัติและเอไอมาใช้ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2567–2568 ลดลงต่อเนื่องโดยตั้งเป้าใช้พลังงานทดแทน 31% ภายในปี 2573 และ 87.6% ภายในปี 2593 ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับทรูคอร์ปอเรชั่นในโครงการEnergy Monitoring เพื่อลดการใช้พลังงานในบางช่วงเวลาและเตรียมใช้ระบบกักเก็บพลังงานและเทคโนโลยีUGT เพื่อสนับสนุนการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน

สำหรับกลุ่มทรู นายวีรศักดิ์ พงษ์ธัญญวิชัย หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมทรูคอร์ปอเรชั่น ระบุว่าแม้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากScope 1 ของกลุ่มทรูจะมีสัดส่วนน้อยแต่บริษัทยังคงเดินหน้าลดการใช้พลังงานจากเสาสัญญาณกว่า 30,000–50,000 เสาทั่วประเทศผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพเสาเดิมติดตั้งโซลาร์เซลล์แล้วกว่า 10,000 เสาและพัฒนาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงพร้อมตั้งศูนย์BNIC เพื่อลดการใช้พลังงานอย่างเป็นระบบสำหรับScope 3 ตั้งเป้าร่วมกับคู่ค้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายในปี 2573 โดยเน้นความร่วมมือเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

ขณะเดียวกันผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนภายนอกได้เข้าร่วมให้ความคิดเห็นต่อการเสนอแผนของกลุ่มธุรกิจเริ่มจากรศ.ดร.เกรียงศักดิ์ภานุวัฒน์วนิชย์ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระบุว่า “การมุ่งสู่เป้าหมายCarbon Neutral ปี 2573 และNet Zero ปี 2593 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นโจทย์ท้าทายอย่างมากเนื่องจากแต่ละกลุ่มธุรกิจมีลักษณะและรูปแบบการดำเนินงานที่แตกต่างกันอย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นร่วมกันคือความพยายามอย่างจริงจังของทุกหน่วยธุรกิจในการบรรลุเป้าหมายด้านคาร์บอนโดยเฉพาะการทำงานร่วมกันข้ามกลุ่มธุรกิจ

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

ส่วนแผนการดำเนินงานสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกScope 1 และ 2 มีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดขณะที่Scope 3 ซึ่งครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานยังถือเป็นความท้าทายที่ต้องขับเคลื่อนต่อเนื่องทั้งนี้หน่วยธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเช่นAI, IoT หรือCarbon Capture สามารถเป็นต้นแบบให้หน่วยธุรกิจอื่นต่อยอดและพัฒนาแนวทางใหม่ๆได้ซึ่งในภาพรวมภาคเอกชนควรเริ่มปรับตัวและขยับตัวอย่างจริงจังส่วนภาครัฐควรสนับสนุนด้วยนโยบายต่างๆเพื่อให้เป้าหมายด้านคาร์บอนเป็นไปได้อย่างยั่งยืน”

รศ.ดร.ชินธันย์ อารีประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แสดงความชื่นชมต่อความตั้งใจของกลุ่มธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการผลักดันเป้าหมายCarbon Neutral และNet Zero โดยระบุว่า “แม้แต่ละกลุ่มธุรกิจมีความแตกต่างกันแต่การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เช่นพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์และชีวมวลรวมถึงการใช้AI และIoT ในกระบวนการผลิตสามารถช่วยให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

“เครือซีพี” เร่งเครื่องสู่คาร์บอนนิวทรัล 2030 ดึงทุกธุรกิจผนึกพลัง

ผศ.ดร.อรอนงค์ลาภปริสุทธิภาควิชาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นว่าทุกหน่วยธุรกิจมีความตั้งใจและระบบการทำงานชัดเจนแม้เป้าหมายท้าทายโดยเฉพาะภาคเกษตรที่ซับซ้อนด้านข้อมูลการใช้เทคโนโลยีช่วยให้จัดเก็บวิเคราะห์และนำไปใช้วางแผนได้จริงพร้อมย้ำว่าการขับเคลื่อนของเอกชนจะช่วยให้เป้าหมายประเทศสำเร็จง่ายขึ้นด้านนายนครินทร์หอมดีสถาบันเทคโนโลยีไทย–ญี่ปุ่นระบุว่าหลายธุรกิจได้รับการรับรองSBTiและตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซScope 1–3 อย่างเป็นระบบโดยเน้นการจัดการพลังงานและเพิ่มพลังงานทดแทนพร้อมชี้ว่าประเทศไทยสามารถนำแนวทางIndustry 5.0 มาปรับใช้เพื่อเสริมความยั่งยืนเช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้ว