"กากถั่วเหลือง" ดิ่ง 20% ลดต้นทุนปศุสัตว์ หนุนเนื้อคุณภาพ ราคาผู้บริโภคเข้าถึงง่าย

16 ส.ค. 2568 | 06:39 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2568 | 06:55 น.

การเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ หรือไก่ไข่ ต้นทุนครึ่งหนึ่งมาจากอาหารสัตว์ และราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีการปรับขึ้นลงอยู่ตลอด จากหลายปัจจัย ทั้งฝนฟ้า โรคระบาด ไปจนถึงสถานการณ์โลก

แต่ในรอบ 3 ปีหลังนี้ (2566–2568) มีข่าวดีเกิดขึ้น เมื่อราคากากถั่วเหลืองที่เคยสูงถึงกิโลกรัมละ 18 บาทในปี 2566 ลดลงเหลือแค่ 14 บาทเมื่อต้นสิงหาคม 2568 หรือลดลงมากกว่า 20% การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์บริหารต้นทุนได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมคุณภาพที่ดีของเนื้อสัตว์และเสถียรภาพราคา ทำให้ราคาสินค้าที่ส่งถึงผู้บริโภคปลายทางอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล ทั้งสองฝ่ายจึงได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน

การผลิตเนื้อสัตว์ของไทย มีต้นทุนสำคัญ คือ วัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร้อนแล้ง ฝนตกหนัก น้ำท่วม รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์รายใหญ่ของโลก ล้วนส่งผลกระทบในวงกว้างดันราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

"กากถั่วเหลือง" ดิ่ง 20% ลดต้นทุนปศุสัตว์ หนุนเนื้อคุณภาพ ราคาผู้บริโภคเข้าถึงง่าย

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศผู้ผลิตและส่งออกเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก ต่างเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคสัตว์ต่าง ๆ ทั้งโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู เช่น โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในสุกร และไข้หวัดนก (ในประเทศเพื่อนบ้าน) นอกจากทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่า 50% แล้ว ยังต้องทำลายสัตว์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดขยายวง เหล่านี้ส่งผลกระทบกับต้นทุนการผลิตและราคาเนื้อสัตว์ในประเทศสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ภาคส่วนที่ได้รับอานิสงส์จากเรื่องนี้โดยตรง คือ “ไก่เนื้อ” ที่จะมีทางเลือกในการใช้สูตรอาหารมากขึ้น จากราคากากถั่วเหลืองที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญที่มีบทบาทในการพัฒนาเนื้อสัตว์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและราคาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์มีเสถียรภาพมากขึ้น การลดลงของราคากากถั่วเหลืองจึงเป็นปัจจัยบวกที่จะจูงใจให้เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ หันมาใช้สูตรอาหารสัตว์ที่มีสัดส่วนของกากถั่วเหลืองมากขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้

"กากถั่วเหลือง" ดิ่ง 20% ลดต้นทุนปศุสัตว์ หนุนเนื้อคุณภาพ ราคาผู้บริโภคเข้าถึงง่าย

ถือเป็นโอกาสสำคัญในการปรับโครงสร้างการเพาะปลูกพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตควบคู่กับการใช้เทคโนโลยี และตรวจสอบย้อนกลับได้ตามแนวทางการผลิตที่ยั่งยืน ลดความผันผวนของราคาวัตถุดิบในอนาคต รวมถึงรองรับเงื่อนไขทางการค้าและการบริโภคของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น และยังช่วยยกระดับเนื้อสัตว์และเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น 

ราคาวัตถุดิบที่ผันผวนของในช่วงที่ผ่านมา กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เห็นความจำเป็นในการปรับโครงสร้างการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ของไทย โดยเฉพาะการลดการใช้วัตถุดิบจากการเผา เช่น ข้าวโพดจากพื้นที่เผา ซึ่งมีส่วนในการสร้างฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สิ่งสำคัญคือ การส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ และใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต เป็นความจำเป็นที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น

กากถั่วเหลืองที่ราคาปรับลดลง ไม่ใช่เรื่องของต้นทุนที่ลดลง แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างระบบอาหารที่มีคุณภาพ ยั่งยืน และเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายในห่วงโซ่การผลิตเนื้อสัตว์ ตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำ ไปจนถึงผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ร่วมกันแบบ win-win และยังเป็นโอกาสที่นำไปสู่ความยั่งยืนในการปรับโครงสร้างการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ของไทย ควบคู่กับการส่งเสริมคนไทยสู่การบริโภคอย่างยั่งยืน

บทความโดย : ศิระ มุ่งมะโน นักวิชาการอิสระด้านปศุสัตว์