ภาษีสหรัฐ 19% ดันราคาข้าวไทยสูง กังวลกำลังซื้อ-พิพาทกัมพูชาทุบตลาดทางอ้อม

10 ส.ค. 2568 | 10:15 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2568 | 10:24 น.

สหรัฐประกาศเก็บภาษีข้าวไทย 19% ใกล้เคียงเวียดนามที่ 20% ความสามารถแข่งขันระยะสั้นยังไม่สะเทือนมาก แต่ดันราคาข้าวไทยสูงขึ้น ขณะที่ผู้ส่งออกหวั่นกำลังซื้อสหรัฐหด และข้าวกัมพูชาไหลไปเวียดนามส่งออกไปอเมริกา กระทบตลาดในอนาคต

สหรัฐอเมริกาเริ่มเก็บภาษีตอบโต้ข้าวไทยที่ 19% ซึ่งใกล้เคียงกับเวียดนามที่เก็บ 20% ทำให้ตลาดข้าวไทยในสหรัฐยังคงมีความสามารถในการแข่งขันในระยะสั้น ทิศทางราคาข้าวไทยในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น 

แม้ข้าวหอมมะลิไทยยังสามารถรักษาฐานลูกค้าได้ในช่วงนี้ แต่ยังมีความกังวลเรื่องกำลังซื้อในสหรัฐที่อาจลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ และความเสี่ยงข้าวหอมมะลิจากกัมพูชาที่อาจไหลไปยังเวียดนาม แล้วถูกส่งออกในราคาต่ำกว่าผ่านการสวมสิทธิ์ส่งออก

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ก่อนหน้านี้ที่ไทยยังไม่ถูกเก็บภาษีข้าวโดยตรงจากสหรัฐอเมริกา จะเสียเพียงค่าธรรมเนียมการนำเข้า 14 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเท่านั้น ซึ่งต่างจากภาษีใหม่ที่ถูกเพิ่มเป็น 19% โดยในระยะสั้นคาดว่าอัตราภาษีใกล้เคียงกับเวียดนาม ไม่ทำให้ช่องว่างราคาหรือภาษีแตกต่างมากนัก ส่งผลให้ตลาดยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว หากเศรษฐกิจสหรัฐไม่ฟื้นตัว และกำลังซื้อประชาชนลดลง ข้าวหอมมะลิไทยที่มีราคาสูงกว่า(ปัจจุบันข้าวหอมมะลิไทยส่งออกไปสหรัฐอยู่ที่ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ข้าวหอมเวียดนามเฉลี่ยที่ 900 ดอลลาร์)จะได้รับผลกระทบมากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ข้าวหอมมะลิของกัมพูชาที่เคยถูกส่งมาไทย อาจไหลเข้าสู่ตลาดเวียดนามและถูกส่งออกไปยังสหรัฐในราคาที่ถูกกว่าได้

สำหรับการส่งออกข้าวไทยไปสหรัฐในปี 2568 นายชูเกียรติคาดการณ์ว่า อาจใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกมีการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากลูกค้าเร่งสั่งซื้อก่อนมีการปรับขึ้นภาษี แต่ในไตรมาส 4 อาจมีการชะลอตัวบ้าง ขณะที่ปริมาณส่งออกข้าวไทยในตลาดสหรัฐปีละประมาณ 800,000 ตัน โดยข้าวหอมมะลิครองส่วนใหญ่ประมาณ 650,000 ตัน