จับตา "พิชัย” สั่งประชุมด่วน นัดถก นบข.วันนี้ เคาะเงินช่วยเหลือชาวนา

09 ส.ค. 2568 | 06:13 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ส.ค. 2568 | 01:42 น.

“ปราโมทย์” นายกสมาคมชาวนา แจ้งข่าวดี รองนายกฯ “พิชัย” สั่งประชุมด่วน นัดถก นบข. วันนี้ 13 ส.ค.นี้ ลุ้นรีบเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท นาปรัง ส่วน นาปี ไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ พ่วงมาตรการ

“ฐานเศรษฐกิจ” ยังคงเกาะติด “เงินช่วยเหลือชาวนาปรังและนาปี “ ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ที่มีนายอรรถกร ศิริลักธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 มีมติไฟเขียวโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2568/2569 โครงการไร่ละ 1,000บาท ไม่เกิน 10 ไร่  ปรับใหม่ จ่ายเงินช่วยชาวนา เพิ่มไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ สูงสุด 12,000 บาท  วงเงิน 45,492.93  ล้านบาท เพื่อชง นบข.ต่อไป

จับตา "พิชัย” สั่งประชุมด่วน นัดถก นบข.วันนี้ เคาะเงินช่วยเหลือชาวนา

 นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้รับการประสานงานจากกรมการค้าภายใน ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่กระทรวงการคลัง โดยมีระเบียบวาระดังนี้

 

วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบ

วาระที่ 2 รับรองสรุปผลการประชุม นบข.ครั้งที่ 2/2568

วาระที่ 3 เรื่องเพื่อทราบ

               3.1 สถานการณ์ข้าวโลกข้าวไทย

              3.2 ความคืบหน้าผลการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปีการผลิต 2567/68

วาระที่ 4 เรื่องเพื่อพิจารณา

             4.1 ทบทวนโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69

             4.2 เงื่อนไขโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568

               4.3 แนวทางการจัดสรรปริมาณข้าวภายใต้โควตาภาษีไปสหภาพยุโรปสำหรับปี 2569-2571

                4.4 การดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี 2568

 

นายปราโมทย์ กล่าวว่า  ในส่วนเงื่อนไขการช่วยเหลือนาปีและนาปรัง ก็ต้องให้ชัดว่าจะให้หรือไม่ ส่วนเงินนาปรังไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ที่แจ้งกับชาวนาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ว่ามีเงินสำรองให้แล้ว ก็ต้องจ่ายตามสัญญา แล้วตอนนี้ราคาข้าวก็ตกต่ำมาก ก็ต้องให้เร่งออกมาตรการรับมือโดยเร็วที่สุด

 

ขณะที่แหล่งข่าววงการค้าข้าว กล่าวว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวรัฐบาลมีภาระค่อนข้างมาก เงินก็มีจำกัด ถ้าจะให้เลือกจ่ายโครงการใดโครงการหนึ่งก็อยากช่วยเหลือนาปีมากกว่า เพราะราคาข้าวเปลือกเจ้า แตะ 5,000 บาทต่อตันแล้ว ส่วนข้าวเปลือกเจ้านาปรัง อย่างน้อยราคาเกี่ยวสดก็อยู่ที่ 7,000-8,000 บาทต่อตัน แต่ถ้าจะช่วยทั้ง 2 ฤดูได้ก็ยิ่งดี เพราะชาวนา ก็คือฐานเสียงของรัฐบาลในการที่จะช่วยทำให้ทุกพรรคมีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศได้