จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ย กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว ทั้งในโลกโซเชียลและพื้นที่ชายแดนจริง จนนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ความขัดแย้งได้ลุกลามสู่การใช้กำลังอาวุธจริงระหว่างกองกำลังไทย–กัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย ขณะเดียวกันความรุนแรงที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวโน้มถดถอยลงอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากรของ "ฐานเศรษฐกิจ" ในปี 2567 ไทย–กัมพูชามีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวม 366,730 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 323,631 ล้านบาท นำเข้า 43,098 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้ากัมพูชา 280,532 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ในมูลค่าการค้าระหว่างไทย–กัมพูชาข้างต้น ในจำนวนนี้เป็นการค้าชายแดน มูลค่ารวม 174,530 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 141,847 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 109,163 ล้านบาท
ล่าสุดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.–มิ.ย.) การค้าไทย–กัมพูชา มีมูลค่าการค้ารวม 195,971 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -18% โดยไทยส่งออก 171,133 ล้านบาท ลดลง -26% นำเข้า 24,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยเกินดุลการค้า 146,296 ล้านบาท ลดลง -37%
โดยสินค้าส่งออกไทยไปกัมพูชา 10 อันดับแรก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ, น้ำมันสำเร็จรูป, น้ำตาลทราย, เครื่องดื่ม, เคมีภัณฑ์, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว, รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ
ส่วนสินค้านำเข้าของไทยจากกัมพูชา 10 อันดับแรก ได้แก่ ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้, สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์, เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ, เสื้อผ้าสำเร็จรูป, สายไฟและสายเคเบิล, เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ, ส่วนประกอบอุปกรณ์ยานยนต์, ผลิตภัณฑ์โลหะ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และรองเท้า
ขณะที่การค้าชายแดนไทย–กัมพูชา ตัวเลขอัปเดตล่าสุดของกรมการค้าต่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.–พ.ค.) มีมูลค่ารวม 80,723 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออก 63,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% นำเข้า 17,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ไทยเกินดุลการค้า 45,433 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี จากข้อพิพาทไทย–กัมพูชาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีมาตรการตอบโต้กัน โดยมีการปรับเวลาเปิด–ปิดด่านชายแดน รวมถึงมีการปิดด่านชายแดนบางส่วน ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนไทย–กัมพูชาได้รับความเสียหาย ระบบการขนส่ง โลจิสติกส์ชะงัก คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 500 ล้านบาทต่อวัน
ทั้งนี้ หากสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย–กัมพูชาล่าสุดหากมีความยืดเยื้อ นายวรทัศน์ ตันติมงคลสุข ประธานสภาธุรกิจไทย–กัมพูชา คาดการณ์ว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2568 หากการขนส่งทางบกเข้ากัมพูชาใช้การไม่ได้ จะทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยไปกัมพูชาในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้จะหายไปประมาณ 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวจะได้รับผลกระทบตามนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่ามีความยืดเยื้อ หรือรุนแรงแค่ไหน