การบินไทย พร้อมร่วมมือขนคนไทยในกัมพูชากลับประเทศ เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด

24 ก.ค. 2568 | 07:04 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2568 | 07:11 น.

การบินไทย พร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาล ขนคนไทยในกัมพูชากลับประเทศ ทั้งจับตา สถานการณ์ไทย-กัมพูชาใกล้ชิด เตรียมแผนรับมือหากเหตุการณ์ยกระดับด้าน “คมนาคม“ สั่ง กพท. - บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์

วันนี้(วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ) นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความรุนแรงระหว่าง ไทย-กัมพูชาที่ปะทะลามไปหลายจุดบริเวณชายแดนที่เกิดขึ้น ล่าสุด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในนามของ สายการบินไทย ได้มีการประเมินสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า และ ได้มีการประสานงานไปยังสถานทูตไทยประจำกัมพูชาเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น

การบินไทย

ทั้งนี้ที่ประเทศกัมพูชา มีพนักงานการบินไทย จำกัด  ประจำอยู่ 3 คน และส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติ และ ทางสายการบิน จะเกาะติดสถานการณ์ในช่วงบ่ายวันนี้ ว่าทางสายการบินจะต้องมีการเตรียมพร้อมรับมืออย่างไรต่อ

โดยทางการบินไทย จะหารือกับทางสถานทูต รวมถึง หารือกับสายการบินอื่นของประเทศไทยที่มีเที่ยวบินไปกัมพูชาเช่นกัน ทั้งนี้ หากมีสัญญาณจากทางหน่วยงานภาครัฐในการให้ช่วยเหลือ อพยพคนไทยกลับภูมิลำเนา ทางการบินไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นายชาย กล่าวว่า ขณะนี้ เที่ยวบินของการบินไทย เส้นทางจากไทย ไปกัมพูชา ยังเปิดบินปกติ ขณะนี้ มีผู้โดยสารจองเที่ยวบินล่วงหน้าเส้นทางไทย-กรุงพนมเปญ 2 เที่ยวบิน จนถึง 31 ก.ค.นี้มีทั้งหมด 3,000 ที่นั่ง ซึ่งทางการบินไทย ก็จะติดตามสถานการณ์และพร้อมดูแลผู้โดยสารทุกคนหากมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ และหากจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินก็เชื่อว่าผู้โดยสารจะเข้าใจ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ พร้อมประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ

โดยทางด้าน  บวท. ได้เร่งดำเนินการทุกกระบวนการด้านความปลอดภัย และพร้อมอำนวยความสะดวกให้เครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก ทั้งนี้หน่วยงานได้ดำเนินการตามมาตรการ เร่งด่วนดังนี้

1.เตรียมพร้อมการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศโดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Prioriy) ตามวิธีปฏิบัติที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการบินของภารกิจด้านความมั่นคง

2.เตรียมพร้อมการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดรับกับสถานการณ์และภารกิจที่เกิดขึ้น ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน

3. เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน ประสานงานและอำนวยความสะดวกการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ตามภารกิจพิเศษต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในทุกมิติ

อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เที่ยวบินพาณิชย์ ยังคงให้บริการตามปกติ โดย กพท. และ บวท. ได้เฝ้าระวังสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ด้าน กพท. ขณะนี้ได้ประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาถึงแผนการบริหารจัดการด้านการบินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น และเกิดความปลอดภัยสูงสุด