1,342 คดี จำนำข้าวยังไม่จบ โรงสีหวังได้คืนเงินค้ำประกัน ข้าวค้างสต๊อก 1.7 หมื่นตัน

02 ก.ค. 2568 | 21:30 น.

มหากาพย์ “จำนำข้าว” รัฐเสียหายกว่า 6.42 แสนล้าน ยังไม่จบ ล่าสุดยังเหลือข้าวคงเหลือในสต๊อก 1.7 หมื่นตัน เป็นข้าวไฟไหม้อยู่ระหว่างเรียกร้องค่าสินไหมจากบริษัทประกันภัย ด้าน อคส.-อ.ต.ก. เผยยังเหลืออีก 1,342 คดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ข้างสมาคมโรงสี ตั้งคำถามหากชนะคดี รัฐจะคืนเงินค้ำประกันให้หรือไม่

“ฐานเศรษฐกิจ” อัปเดตความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังเป็นมหากาพย์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานได้พิจารณาเห็นชอบความคืบหน้าผลการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว ตามนโนบายรัฐบาล ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 1,524 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 6.42 แสนล้านบาท

1,342 คดี จำนำข้าวยังไม่จบ โรงสีหวังได้คืนเงินค้ำประกัน ข้าวค้างสต๊อก 1.7 หมื่นตัน

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก มีจำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 2. โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 3.โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 4. โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2554/55 5. โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 6.โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/56 ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 และ 7.โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2556/57 ปัจจุบันเหลือข้าวในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) จำนวน 17,291.504 ตัน ส่วนในคลังขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ระบายหมดแล้ว

“สาเหตุที่ยังมีข้าวคงเหลือ เนื่องจากผู้ประกอบการยังไม่ขนย้ายข้าวออกจากคลังสินค้า และเจ้าของคลังสินค้าไม่ยอมส่งมอบข้าวสาร หรือผู้ประกอบการผิดสัญญาซื้อขาย และเป็นข้าวอยู่ระหว่างเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย เป็นต้น อย่างไรก็ดี การปิดบัญชีจำนำข้าวของ นบข. ตั้งแต่ปี 2566 ให้ขยายโครงการจนกว่าคดีจะสิ้นสุดในชั้นศาล ซึ่งได้มอบหมายให้ อคส.และ อ.ต.ก.รายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นประจำทุกปี เพื่อรายงานต่อ นบข.ต่อไป”

 

1,342 คดี จำนำข้าวยังไม่จบ โรงสีหวังได้คืนเงินค้ำประกัน ข้าวค้างสต๊อก 1.7 หมื่นตัน

 

ล่าสุดผลการดำเนินดคีทั้งในส่วนของ อคส.และ อ.ต.ก. ที่ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีทางกฎหมายกรณีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จากจำนวน 1,524 คดี ในส่วนของอคส.มีคดีสิ้นสุดแล้วเพิ่มขึ้น 62 คดี แบ่งเป็นคดีปกครอง 11 คดี และคดีอาญา 51 คดี คงเหลือคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับคู่สัญญา รวม 983 คดี แบ่งเป็นคดีปกครอง 235 คดี และคดีอาญา 748 คดี ส่วน อ.ต.ก.ยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับคู่สัญญา รวมทั้งสิ้น 359 คดี แบ่งเป็นคดีปกครอง 90 คดี และคดีอาญา 269 คดี

นายอานุภาพ ภรพิริยะนิยม ประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดยโสธร อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวถึง ข้อบกพร่องการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล 18.9 ล้านตัน สมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ปี 2558-2562 ที่ได้เร่งระบายข้าวโดยตั้งระเบียบกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์แต่เดิม และทางโรงสีและผู้ประกอบการคลังสินค้าได้ร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่รัฐกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต และเรื่องได้ถูกส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

จากการคัดเกรดข้าว การระบายข้าว ตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการระบายข้าวที่มาจากการแต่งตั้งโดย (คสช.) เช่น การตรวจสอบข้าว การเก็บตัวอย่างข้าวหลังรัฐประหาร ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการจัดเกรดข้าวก่อนขายให้พ่อค้า ทั้งที่ไม่มียุคใดทำมาก่อน เพราะปกติจะขายเหมาโกดัง แต่ปี 2560-2561 มีการจัดเกรดข้าวเป็นเกรด เอ-บี-ซี โดยข้าวเกรดซี คือข้าวที่คนกินไม่ได้ ต้องขายเป็นอาหารสัตว์ เผาเป็นเอทานอลหรือนำไปทำปุ๋ย โดยข้าวสารทั้งหมด 18.9 ล้านตัน แต่ถูกจัดเป็นข้าวเกรดซีถึง 12 ล้านตัน เพื่อขายให้เอกชน 19 ราย ในราคากิโลกรัมละ 2-3 บาท ทำให้รัฐเสียหายกว่าแสนล้านบาท ขณะที่เอกชนนำไปขายในประเทศหรือส่งออกได้ถึงกิโลกรัมละ 12-13 บาท

1,342 คดี จำนำข้าวยังไม่จบ โรงสีหวังได้คืนเงินค้ำประกัน ข้าวค้างสต๊อก 1.7 หมื่นตัน

สอดคล้องกับ นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาสมาชิกที่ประกอบการคลังสินค้าในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐ ที่กล่าวว่า คดีทั้งหมดต้องรอศาลตัดสิน ซึ่งต้องใช้เวลา แม้ว่าใจจริงอยากให้เร็วกว่านี้ก็ตาม ทั้งนี้มีคำถามคือ หากศาลตัดสินแล้วฝ่ายโรงสีชนะ รัฐจะคืนเงินคํ้าประกันให้หรือไม่ หรือคืนค่าเช่าคลัง ค่าตรวจตรวจ และดอกเบี้ยที่ต้องเสียเวลาในการต่อสู้มานานกว่า 10 ปีให้หรือไม่

 

หน้า 9  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,110 วันที่ 3 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568