พาณิชย์ กางแผนปิดดีล FTA ปี68 ถกอียู-เกาหลี ขยายตลาด–เพิ่มแต้มต่อผู้ประกอบการไทย

13 มิ.ย. 2568 | 05:15 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2568 | 05:51 น.

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยแผนเร่งสรุปเจรจา FTA ไทย-อียู ไทย-เกาหลีภายในปี 2568 ขยายความร่วมมือการค้าเสรีทั่วโลก เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย ชี้ FTA ดันมูลค่าการค้ากว่า 360 พันล้านดอลลาร์

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยในปี 2568 ว่า กรมจะเร่งเดินหน้าสรุปการเจรจา FTA ที่คงค้างอยู่โดยเร็ว คือ FTA ไทย-

สพภาพยุโรป (อียู) และไทย-เกาหลีได้ ซึ่งการเจรจากับเกาหลีได้ 

ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าที่จะสรุปผลภายในปี 2568 ส่วน FTA อาเซียน-แคมาดา จะเร่งผลักดันให้มีความคืบหน้ามากที่สุดในปี 2568 เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2569

 

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

 

ทั้งนี้ในช่วงปี 2567 - ต้นปี 2568 ไทยได้ลงนาม FTA จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ไทย-ศรีลังกา -สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) และ ไทย-ภูฏาน ซึ่งปัจจุบันไทยและประเทศคู่ FTA อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินกระบวนการภายในประเทศ เพื่อให้ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้ภายในปี 2569 

โดยสินค้าและบริการที่จะได้รับประโยชน์ อาทิ ยานยนต์และชินส่วน เครืองจักรกลและเครื่อง

และเครื่องประดับ อาหารปรุงแต่ง ผักและผลไม้ การท่องเที่ยว บริการธุรกิจ ก่อสร้าง ขนส่งและโลจิสติกส์ และค้าปลีก

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการเจรจาตัดทำ FTA เพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างขีดความสามารถทาฝการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย การเจรจาจัดทำ FTA เพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย

 

พาณิชย์ กางแผนปิดดีล FTA ปี68 ถกอียู-เกาหลี ขยายตลาด–เพิ่มแต้มต่อผู้ประกอบการไทย

 

สำหรับฉบับกำลังเจรจา FTA ไทย-อียู ตอนนี้ความคืบหน้าเป็นไปค่อนข้างดี เจรจาแล้ว 5 รอบ รอบที่6 จะเจรจาสิ้นเดือน โดยเจรจาข้อบทต่าง ๆ คืบหน้าไปอย่างได้ดี จาก 20 บาท จบแล้ว 4 บท ขณะที่การเปิดตลาดการค้า จะมีการเจรจา บริการลงทุน การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น ซึ่งตั้งเป้าปิดดีลภายในปี 68 เพื่อช่วยเชื่อมโยงซัพพลายเชนทางเศรษฐกิจ

ด้านไทย-เกาหลี มีความคืบหน้าไปค่อนข้างเยอะ คาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จปี 68 อีกทั้งเกาหลีเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ทำให้เกิดการเจรจาได้บ่อยครั้ง

สำหรับการเจรจายกระดับ FTA ที่มีอยู่ในระดับภูมิภาค ไทยและสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ได้ลงนามการเจรจายกระดับ FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อยู่ในช่วงให้สัตยาบัน คาดว่าในช่วงเดือนตุลาคมมีผลบังคับใช้ 

และล่าสุดสามารถสรุปผลการเจรจายกระดับ FTA อาเซียน-จีน ตอนนี้มีเจรจาอัพเกรดเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะลงนามในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ในเดือนกันยายน 2568 หรือ อยู่ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน หรือ ASEAN Summit 

  • อาเซียน - แคนาดา อยู่ในขั้นการเจรจาอาจจะยังไม่จบภายในปีนี้ แต่หากฉบับนี้แล้วเสร็จจะเป็นการเปิดประตูการส่งออก
  • ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement: ATIGA) ตั้งเป้าลงนามภายในปีนี้ 
  • อาเซียน-อินเดีย อยู่ขั้นตอนของการเจรตายกระดับ เพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้มีความทันสมัยและสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งไทยยังอยู่ระหว่างเจรจาจัดทำ FTA ไทย-เปรู ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการเจรจาเปิดเสรีการค้าสินค้าส่วนที่เหลือร้อยละ 30 และการเปิดเสรีภาคบริการ โดยตั้งเป้าหมายที่จะสรุปผลการเจรจาภายในเดือนสิงหาคม 2568

 

พาณิชย์ กางแผนปิดดีล FTA ปี68 ถกอียู-เกาหลี ขยายตลาด–เพิ่มแต้มต่อผู้ประกอบการไทย

 

ส่วนการเจรจาความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework: DEFA) มีความคืบหน้าอย่างมาก ตั้งเป้าให้สรุปผลการเจรรจาอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2568 ซึ่งจะถือเป็นความตกลงเศรษฐกิจกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก มีขอบเขตครอบคลุมประเด็นด้านดิจิทัลอย่างรอบด้าน 

รวมถึงประเด็นท้าทายใหม่ ทางการค้าดิจิทัลที่ไทยผลักดันและสามารถหาข้อสรุปได้แล้ว อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีการเงิน (Fin Tech) ความมั่นคงปลอดภัยไขเบอร์ (Cybersecurity) และการต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์ (Anti-Online Scam) เป็นต้น

นอกจากนี้ กรมมีแผนจัดประชุมคณะกรรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ระดับรัฐมนตรีกับคู่ค้าของไทย อาทิ สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และสหราชอาณาจักร เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ด้านการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก FTA กรมจะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ สภาเกษตรกรแห่งชาติ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ศอ.บต. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เคสเอ็มตีไทย เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA และชี้ช่องโอกาส

 

พาณิชย์ กางแผนปิดดีล FTA ปี68 ถกอียู-เกาหลี ขยายตลาด–เพิ่มแต้มต่อผู้ประกอบการไทย

 

ทั้งนี้การทำตลาดต่างประเทศ ให้แก่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้ประกอบการ SMEs ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย บุครพนม ฉะเชิงเทรา ประจวบครันธ์ ตลอดจนการจัดโครงการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย 

โดยเฉพาะสินค้าที่สามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปในพื้นที่ ทั้งผลไม้ ชา กาแฟ โกโก้ ผ้าทอ งานหัตถกรรม อัญมณีและเครื่องประดับ สู่ตลาดการค้าเสรีซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง

สำหรับในปี 2567 (ม.ค.ธ.ค. 2567) การค้าของไทยกับ 18 ประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่า 360.34 พันล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนร้อยละ 59.3 ของการค้ารวมของไทย โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 154.1 พันล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 172.05 พันล้านดอลลาร์ 

สำหรับในช่วง 3 เดือนแรก (ม.ค.- มีค) ของปี 2568 การค้าของไทยกับประเทศคู่ FTA มีมูลค่าการค้ารวม 96,905 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนร้อยละ 60 ของการค้าของไทยทั้งหมด การส่งออกไปประเทศคู่ FTA รวม 45,144 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนร้อยละ 55 ของการส่งออกทั้งหมด 

 

พาณิชย์ กางแผนปิดดีล FTA ปี68 ถกอียู-เกาหลี ขยายตลาด–เพิ่มแต้มต่อผู้ประกอบการไทย

 

การนำเข้าจากประเทศคู่ FTA รวม 51,761 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 64 ของการนำเข้าทั้งหมด สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า ส่วนสินค้าน้ำเข้าสำคัญของไทย

ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มปัจจังการผลิตที่ไทยสามารถนำมาในการต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มได้ อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า และสินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์