โวย ลักไก่ประชาพิจารณ์ให้แรงงานเกษตรกรเข้าประกันสังคม มาตรา 33 ทำต้นทุนเพิ่ม

 

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 – 15 มีนาคม 2568 สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น เพื่อขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 33 ซึ่งปัจจุบันสภาพสังคมและสภาพการจ้างงานมีการเปลี่ยนแปลงไป การกำหนดสิทธิหน้าที่ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างรวมทั้งลักษณะการทำงานมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมจึงมีความมุ่งหมายที่จะขยายความคุ้มครอง ให้แก่ลูกจ้างในกิจการทั้ง 3 ประเภทกิจการ ดังนี้

1.ลูกจ้างของกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์

2.ลูกจ้างของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย เช่น ลูกจ้างทำงานบ้าน คนขับรถ คนสวน เป็นต้น

3.ลูกจ้างในกิจการค้าแผงลอย

 

เพื่อได้รับความคุ้มครองในระบบประกันสังคม ทำให้ลูกจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ที่ต่อเนื่อง จากการจ่ายสิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคมที่ครอบคลุมตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต ทั้งในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตายที่มิได้เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน รวมถึงกรณีคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน ซึ่งเป็นไปตามหลักการสำคัญด้านแรงงาน นั้น

 

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ในเรื่องรับฟังความคิดเห็น ทางสำนักงานประกันสังคม ได้มีการแอบทำประชาพิจารณ์ออนไลน์ ทำให้เกษตรกร ได้แก่ "กลุ่มกิจการเพาะปลูก,ประมง,ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์” จะต้องให้แรงงานเข้าประกันสังคม ทำให้ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นกับเกษตรกร และแรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งไม่ได้ใช้สิทธิประกันสังคมที่ชัดเจน แต่ต้องเสียเงินทุกเดือน เดือนละ 1,500 บาทต่อแรงงาน 1 คน โดยแบ่งเป็นนายจ้าง 750 บาท,ลูกจ้าง750บาท(ความเป็นจริงนายจ้างจะต้องเป็นผู้ออกเงินเต็มจำนวน 1,500 บาท)

 

“การที่สำนักงานประกันสังคมไม่มีการประชาสัมพันธ์และไม่มีการลงรับฟังความคิดเห็นกับกลุ่มอาชีพเกษตรกรเลย จะถือเป็นการรับฟังความคิดโดยชอบไม่ได้ จึงขอให้มีการชะลอการออกกฎหมายบังคับก่อนที่เกษตรกร จะลุกฮือขึ้นมาประท้วงรัฐบาล”

 

 

อนึ่ง ผลการรับฟังความคิดเห็นขยายความคุ้มครอง ทั้ง 3 ประเภทกิจการ เห็นด้วย ไม่ต่ำกว่า 86% 

 

เปิดไทม์ไลน์ "ลูกจ้าง 3 ประเภทกิจการ" ให้ เข้าประกันสังคม

1.ลูกจ้างของกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์

2.ลูกจ้างของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย เช่น ลูกจ้างทำงานบ้าน คนขับรถ คนสวน เป็นต้น

3.ลูกจ้างในกิจการค้าแผงลอย

 

• เดือนกรกฎาคม 2568 เสนอคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวง
• เดือนสิงหาคม 2568 นำเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อพิจารณาเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
• เดือนกันยายน 2568 นำเสนอต่อ ครม.เห็นชอบในหลักการ
• เดือนตุลาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
• นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้า เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยให้มีผลใช้บังคับต่อไป