วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ออกคำเตือนว่า การใช้ชิป AI ของ Huawei ใน 3 รุ่นได้แก่ รุ่น Ascend 910B, 910C และ 910D อาจละเมิดกฎหมายควบคุมการส่งออกของสหรัฐ (Export Administration Regulations (EAR)) เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากสหรัฐได้ขยายข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เพื่อสกัดจีน ขณะที่จีนตอบโต้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งและขู่จะดำเนินคดี
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีนรุนแรงขึ้น และส่งผลต่อไทยที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะบริษัทไทยที่ใช้งานเทคโนโลยีจาก Huawei หรือ SMIC (ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของจีน) จำเป็นต้องประเมินความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐ
รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรณีดังกล่าวทำให้ประเทศไทยและภาคธุรกิจของไทยที่มีการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย และ SMIC อาจได้รับผลกระทบ หากถูกตรวจสอบพบว่ามีการทำธุรกรรม ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคธุรกิจอื่น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย และ SMIC จากจีน อาจจะถูกลงโทษ เช่นอาจถูกจำกัดหรือระงับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทสหรัฐทันที
นอกจากนี้อาจมีผลต่อการเจรจาของไทย เพื่อขอให้สหรัฐลดภาษีศุลกากรตอบโต้สินค้าไทยที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ(Reciprocal Tariff) ในอัตรา 36% ลงให้เหลือตํ่าสุด หรือไม่มีการจัดเก็บเลยเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในการเจรจาเพื่อขอลดภาษีตอบโต้ลงของไทยที่เหลือเวลาอีกไม่มาก ก่อนเส้นตายที่สหรัฐได้ชะลอการขึ้นภาษีตอบโต้ไทยที่ 36% ได้ชะลอออกไป 90 วัน (เดิมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 9 เม.ย. 68) ไทยยังมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราดังกล่าวหรือลดลงได้ไม่มาก เนื่องจากจุดยืนในการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของไทยที่มีต่อสหรัฐในภูมิภาคนี้ยังไม่ชัด เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งขันส่งออกสินค้าไปสหรัฐ
ตัวอย่างเช่น เวียดนามที่ได้เริ่มเจรจากับสหรัฐแล้ว ประกาศจะเป็นห่วงโซ่การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือสินค้าเทคโนโลยีให้สหรัฐแทนจีน เช่น ผลิต Apple, MacBook, iPad ขณะที่มาเลเซียเสนอเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์(ชิป) ให้สหรัฐ และอินโดนีเซียจะเป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า(EV)ให้สหรัฐ เป็นต้น
“ใน 5 ข้อเสนอหลักที่ไทยประกาศจะใช้ในการเจรจากับสหรัฐไปก่อนหน้านี้ ทั้งความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ การเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทย การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า และส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐมากขึ้น มองว่ายังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาพอใจที่จะลดภาษีให้ไทย ไทยน่าจะเพิ่มออฟชั่นพิเศษในการเจรจากับสหรัฐว่าเราจะเป็นศูนย์กลางอะไรซักอย่างให้สหรัฐ ตรงนี้จะเป็นแต้มต่อให้เขาสนใจข้อเสนอของไทยมากขึ้น”