เอกชนกังวลจีนเที่ยวไทยวูบ จี้ถกระดับรัฐบาล ส่งออกจ่อทรุดตาม จับตาหดเป้าจีดีพีลงอีก

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. / สภาพัฒน์) ได้ปรับลดคาดการณ์ขยายตัวของจีดีพีไทยล่าสุด (19 พ.ค. 2568) ลงเหลือ 1.3 ถึง 2.3% หรือค่ากลางที่ 1.8% จากเดิมคาดจะขยายตัว 2.3 ถึง 3.3%  หรือค่ากลาง ที่ 2.8% หลังไตรมาสแรกปี 2568 จีดีพีไทย ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการส่งออกสินค้าขยายตัว 13.8% การลงทุนภาครัฐขยายตัว 26.3% และการส่งออกบริการขยายตัว 12.3%

อย่างไรก็ดีการที่สภาพัฒน์ ได้ปรับลดคาดการขยายตัวเศรษฐกิจไทยทั้งปีลงเหลือ 1.8% ดังกล่าว  เป็นผลจากคาดการณ์ว่า การอุปโภคบริโภคทั้งปีจะขยายตัว 2.4% การลงทุนภาคเอกชนลดลง 0.7% การส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐทั้งปี จะขยายตัวเพียง 1.8% รวมถึงมีข้อจำกัดจากภาระหนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง

แหล่งข่าวระดับสูงจากภาคเอกชน ให้ความเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2568 ลงเหลือเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.8% ของสภาพัฒน์ล่าสุด มองว่ามีความสอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัว และภาคการส่งออกของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวจากนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ที่เวลานี้ไทยเตรียมเปิดเจรจกับสหรัฐอย่างเร่งด่วน ก่อนเส้นตายการชะลอการเก็บภาษีตอบโต้ไทย(Reciprocal Tariffs)ในอัตรา 36 % ของสหรัฐจะสิ้นสุดในต้นเดือนกรกฎาคมนี้

 ขณะที่ในประเทศกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งเวลานี้จะมีเสียงบ่นจากประชาชนว่าไม่มีเงินซื้อของ ขณะที่ร้านค้า ร้านอาหารก็มีเสียงบ่นว่าคนทานอาหาร หรือคนซื้อสินค้าค่อนข้างเงียบ รวมถึงไทยยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้ภาคธุรกิจในระดับสูงที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะเป็นตัวกดทับกำลังซื้อ

ด้านท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยก็ชะลอตัวลง เฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวอันดับ 1 คือจีน ตัวเลขล่าสุดในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยลดลง โดยมีจำนวน 1.64 ล้านคน จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจีนเที่ยวไทย 2.20 ล้านคน จากมีการสร้างข่าวว่ามาเที่ยวไทยแล้วไม่ปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนส่วนหนึ่งหันไปเที่ยวเวียดนามแทน

“ในเรื่องนี้ต้องการแก้ไขปัญหาในระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เพื่อออกข่าวและรับรองว่ามาเที่ยวไทยแล้วมีความปลอดภัยอย่างไร ส่วนประเด็นเศรษฐกิจจีนชะลอตัวที่กระทบการท่องเที่ยวมองว่าเป็นเรื่องรอง”

 อย่างไรก็ดีจากที่ภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ได้คาดการณ์ขยายตัวของจีดีพีไทยล่าสุด ณ เดือนพฤษภาคม 2568 จะขยายตัวได้ 2.0-2.2% โดยปรับลดลงจากคาดการณ์ในเดือนเมษายนอยูที่ 2.4-2.9% ซึ่งประเมินภายใต้สถานการณ์ที่ไทยถูกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่อัตรา 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้การส่งออกของไทยทั้งปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 0.3-0.9%  (จากที่คาดการณ์ไว้เดือน เม.ย. 2568 ส่งออกไทยจะขยายตัวได้ 1.5-2.5%)

ทั้งนี้คงต้องจับตาการประชุม กกร.รอบต่อ ๆ ไป ว่า จะมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพี และการส่งออกของไทยลงอีกหรือไม่ แต่สัญญาณที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่ดีนัก ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน