รายงานข่าว (8 พ.ค. 2568) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ได้รับการสนับสนุนเงินกู้ด้านความยั่งยืนทางทะเล หรือ Blue Loan วงเงินรวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,000 ล้านบาท จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) โดยเป็นการปล่อยวงเงินกู้ Blue Loan จาก ADB ให้กับอุตสาหกรรมอาหารทะเลในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของภาคการเงินที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตอกตอกย้ำความมุ่งมั่นของไทยยูเนี่ยนในการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ ผลิตอาหารทะเลอย่างยั่งยืน และเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับวงเงินกู้ด้านความยั่งยืนทางทะเลในครั้งนี้ แบ่งเป็นสองส่วน คือ เงินกู้โดยตรงจาก ADB และเงินกู้ร่วมจากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำที่เป็นพันธมิตรทางการเงินจากฮ่องกง 1 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน และจากสิงคโปร์ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC), ธนาคารเอ็มยูเอฟจี จำกัด (MUFG), ธนาคาร OCBC, ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) และธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (UOB)
วงเงินกู้ดังกล่าวไทยยูเนี่ยนจะนำมาใช้ในการยกระดับการจัดซื้อวัตถุดิบกุ้งที่เพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน ในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® 2030 และยังสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
ภายใต้วงเงินกู้ด้านความยั่งยืนทางทะเลที่ไทยยูเนี่ยนได้รับในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดหาวัตถุดิบกุ้งที่เพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืนที่ได้การยอมรับในระดับโลกจาก Global Sustainable Seafood Initiative หรือ GSSI เช่น มาตรฐาน Aquaculture Stewardship Council หรือ ASC และมาตรฐาน Best Aquaculture Practices หรือ BAP หรือจัดซื้อจากฟาร์มที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีความน่าเชื่อถือ (Aquaculture Improvement Projects หรือ AIPs)
แนวทางนี้ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ การตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหารกุ้ง และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานหมุนเวียน ปรับปรุงประสิทธิภาพอัตราแลกเนื้อ (FCR) รวมถึง การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ส่งเสริมการใช้แรงงานที่เป็นธรรมและการทำงานร่วมกับชุมชน
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยน การได้รับวงเงินกู้ด้านความยั่งยืนทางทะเลนับเป็นก้าวสำคัญ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ไทยยูเนี่ยนได้เป็นเอกชนรายแรกในอุตสาหกรรมอาหารทะเลในประเทศไทยที่ได้รับการสนับสนุน Blue Loan จาก ADB
เงินทุนนี้จะช่วยเร่งการขับเคลื่อนการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน ช่วยดูแลท้องทะเล สร้างความมั่นคงทางอาหาร และการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไทยยูเนี่ยนหวังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทอาหารทะเลอื่น ๆ ปฏิบัติตาม
นายอานุช เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกของเอดีบีที่จัดสรรเงินกู้ Blue Loan ในสาขาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (aquaculture) ในประเทศไทย ทั้งนี้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหนึ่งในแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่มีคุณภาพมากที่สุดและมากกว่าครึ่งหนึ่งของอาหารทะเลทั้งโลกมาจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารสำหรับประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ
อย่างไรก็ดีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำยังเผชิญความเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและเงื่อนไขด้านสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย มลพิษ การตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มมากขึ้น และการทำการประมงที่เกินขีดจำกัด เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำ (aquafeed) ที่สูงขึ้น การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยแก้ปัญหาความท้าทายต่างๆ และเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีสำหรับการจัดหากุ้งที่เพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการปรับตัวและเปลี่ยนผ่านสู่ห่วงโซ่การผลิตที่ยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ