สหกรณ์โคนมส้มหล่น นมโรงเรียนปี 68 ตัวหารน้อย-คาดปีนี้กำไรอู้ฟู่
สหกรณ์โคนมส้มหล่น รับอานิสงส์ “นมโรงเรียน” ปี 2567 แบ่งเค้กจากโรงนมเอกชน 50:50 มีตัวหารน้อยกว่า คาดฟันกำไรอู้ฟู่ ขณะที่เอกชนถูกหั่นโควตา ต้องนำนํ้านมดิบส่วนเกิน 3 พันตัน ส่งให้สหกรณ์โคนมวังนํ้าเย็นผลิตเป็นนมผง-บางโรงถอดใจเลหลังขายทิ้งให้สหกรณ์
ตามมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 มีนาคม 2568 เรื่องการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ในประเด็นโครงสร้างระบบบริหารโครงการอาหารเสริม( นม)โรงเรียน หรือ “นมโรงเรียน” จากเดิมที่แบ่งกลุ่มพื้นที่ 5 เขตพื้นที่ เป็น 7 เขตพื้นที่ ซึ่งการแบ่งเขตใหม่จะสามารถช่วยลดระยะทางในการขนส่งนมโรงเรียนได้ จากเดิมที่ต้องขนส่งระยะทางไกลที่สุด 1,191 กิโลเมตร เหลือเพียงแค่ 505 กิโลเมตร
ทั้งนี้ในการจัดสรรสิทธิในปีการศึกษา 2567 ทางคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ได้ดำเนินการจัดสรรสิทธิและพื้นที่การจำหน่ายนมโรงเรียน ทั้งสิ้น 976.086 ตัน/วัน โดยแบ่งจัดสรรสิทธิให้สถาบันเกษตรกร (สหกรณ์) 485.593 ตัน/วัน (ร้อยละ 50) และผู้ประกอบการภาคเอกชน (ไม่ใช่สหกรณ์) 485.593 ตัน/วัน (ร้อยละ 50) ซึ่งเป็นสัดส่วนเท่าเทียมกัน ตามสัญญา (อนุบาลจนถึงชั้น ป. 6) สามารถดื่มนมได้ 260 วัน
นายณัฐวุฒิ ประทีปะวณิช รองประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงโครงการนมโรงเรียน ปีการศึกษา 2568 ว่าทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะอนุกรรมการและฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนได้มีการประกาศผ่านทางเว็บไซต์ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2568 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องพิจารณาหลักเกณฑ์การประกาศอีกครั้งว่าหลักเกณฑ์จะเหมือนปีการศึกษา 2567 หรือไม่
ทั้งนี้ตัวแปรสำคัญคือ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในปีการศึกษา 2567 อ.ส.ค. ถูกจัดสรรโควตาไปอยู่ในสัดส่วนของภาคเอกชน รวม อ.ส.ค.มีจำนวน 61 โรง ซึ่งในขณะนี้ทางฝ่ายเอกชนไม่ยินยอม และจะผลักดันโควตาของ อ.ส.ค.ให้มาอยู่ในภาคสหกรณ์ ซึ่งมีจำนวน 23 โรง หากผลักมาอยู่ในสัดส่วนของภาคสหกรณ์จะทำให้สหกรณ์มีตัวหารเพิ่มขึ้น โดย อ.ส.ค.มีปริมาณนํ้านมดิบยื่นตามวัตถุประสงค์นมโรงเรียน 367.596 ตันต่อวัน จากที่ได้รับจัดสรร 485.593 ตัน/วัน
อย่างไรก็ดีในปีนี้คาด อ.ส.ค.จะยังคงอยู่ในสัดส่วนของเอกชน และไม่กระทบกับสัดส่วนของสหกรณ์คาดว่าจะยังคงเดิม เนื่องจากมติ ครม. ให้จัดสรรสิทธินมโรงเรียน โดยมีวัตถุประสงค์สร้างศักยภาพ ความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนม รัฐวิสาหกิจ และ สถาบันการศึกษา ในการดำเนินกิจการผลิตนมในลำดับแรก
“ในปีการศึกษา 2568 จำนวนโรงนมของสหกรณ์คาดจะมีเพิ่มขึ้น ส่วนนํ้านมดิบที่ล้น เพราะเอกชนหลายโรงไม่รับซื้อนํ้านมดิบจากเกษตรกรจากไม่มั่นใจว่าจะได้โควตาเท่าไร ความเห็นส่วนตัวมองว่าก็ต้องช่วยเอกชนด้วย เพราะรับซื้อนํ้านมจากเกษตรกรเช่นเดียวกัน อาจทำให้เอกชนบางโรงถอดใจขายโรงนมให้สหกรณ์”
แหล่งข่าวผู้ประกอบการนมโรงเรียน กล่าวว่า ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมาเอกชนขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนโรงและสาขา เพื่อมาเข้าโครงการนมโรงเรียน แต่ถ้ามาใช้ระบบการจัดสรรโควตาแบบนี้จะทำให้โรงนมเอกชนไม่เติบโต และจะมีโรงนมเอกชนไม่กี่โรงที่จะยืนหยัดอยู่ได้ ทำให้เวลานี้มีโรงนมเอกชนหลายโรงเริ่มที่จะมีทำสัญญาลับกับสหกรณ์ เพื่อที่จะโอนถ่ายนํ้านมดิบให้กับสหกรณ์ที่จะได้รับโควตาการจัดสรรสิทธิพื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้สหกรณ์มีการลงทุนทั้งโรงงานและขยายไลน์ผลิตเพิ่มขึ้น คาดว่าจะทำให้มีกำไรจากการขายนมโรงเรียนเป็นกอบเป็นกำ”
ด้านนายอำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมวังนํ้าเย็น จำกัด กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้รับนํ้านมดิบจากภาคสหกรณ์และเอกชนที่นํ้านมดิบล้นให้ผลิตเป็นนมผง ซึ่งมีประมาณ 3,000 ตันที่เอกชนรวบรวมส่งให้แล้ว ซึ่งทางสหกรณ์ฯพร้อมที่จะรับจ้างผลิต โดยจะต้องรวบรวมนํ้านมดิบมาส่งขั้นตํ่า 200 ตัน ซึ่งจะเปิดรับ 24 ชั่วโมง
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,090 วันที่ 24 - 26 เมษายน พ.ศ. 2568