จากผลกระทบ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาราคายางพาราทุกชนิดมีการปรับราคาลดลง 10-12 บาทต่อกิโลกรัม อย่างมีนัยสําคัญ
นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) เผยว่า ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการด่วนที่สุดเรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมยางในวันพรุ่งนี้ (23 เมษายน 2568) เพื่อกำหนดแผนงานดันราคากลับมาให้เร็วที่สุด จากผลกระทบของบริษัทใหญ่ที่จงใจกดราคาซื้อต่ำหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนในตลาด จะเสนอให้มีการใช้บังคับกฎหมายเพื่อช่วยชาวสวนยางไม่ให้ขาดทุน และขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบกิจการยางพาราให้ซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยาง ในราคาที่เป็นธรรม
ดร.อุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงวิกฤตปัญหาราคายางตกต่ำลงอย่างกระทันหัน พร้อมได้ตั้งข้อสังเกตการประกาศราคายางดิบของ กยท.ที่ลดต่ำมากทันที ในวันที่ 8 เมษายน 2568 ถึง 11.50 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากการรับทราบข่าวการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ตามนโยบายอัตราภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Trade and Tariffs) ของสหรัฐอเมริกา ทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางวิตกกังวลมาก ดังนั้น สยท.จึงเรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาและรับมือกับสถานการณ์พิเศษนี้"
เนื่องจากเห็นว่าการปรับลดลงของราคาประกาศของ กยท.ในครั้งเดียวที่สูงถึง 11.50 บาท/กิโลกรัม เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสร้างความตื่นตระหนกให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในกระบวนการประกาศราคายางของทางการได้ว่ามีการคำนวณและมีขั้นตอนในการอนุมัติประกาศเป็นอย่างไรโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตแบบนี้ หากคิดคำนวณตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วได้ตัวเลขออกมาลดลงมากเกินไป ก่อนจะทำการประกาศเป็นราคาสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องนำเสนอผู้ที่รับผิดชอบสูงสุดในองค์กรให้รับทราบและเป็นผู้อนุมัติเองจะได้เกิดความรอบคอบมากขึ้น
นายอุทัย กล่าวว่า เมื่อมาดูฝั่งของการประกาศราคา น้ำยางข้นในเงื่อนไข เอฟโอบี (F.O.B.) ก็ประกาศราคาต่ำกว่าปกติผิดไปจากการประกาศของสมาคมน้ำยางข้นไทยและราคาทาง คณะกรรมการยางพารามาเลเซีย (Malaysia Rubber Board :MRB) ของประเทศมาเลเซียมาก ซึ่งทั้ง 3 ตลาดควรประกาศราคากลางใกล้เคียงกันดังที่เคยเป็นมาตลอด แต่ตลาด CRM ของ กยท.กลับประกาศราคาต่ำกว่ามากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา(วันที่ 9-17 เมย.2568) จึงไปกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกาศราคาของประเทศไทยและเป็นข้ออ้างให้ผู้ค้าต่างประเทศปฏิเสธราคาเสนอของผู้ประกอบการไทย
“ที่ประชุมของสยท.จึงวิเคราะห์ว่าการประกาศราคาของกยท.อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนของราคายางได้ การประกาศราคายางของ กยท.ที่ขาดความเข้าใจและไม่เป็นมืออาชีพในการรับมือช่วงที่เกิดวิกฤตราคายางซึ่งควรจะเป็นหลักในการดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้เกษตรกรชาวสวนยางและผู้ค้าขายยางเกิดอาการตื่นตกใจ( panic )จึงขอให้ทางผู้บริหารของ...กยท....ได้กรุณาพิจารณาทบทวนตามผลการวิเคราะห์ของกรรมการ...สยท.นำเสนอนี้ด้วย”
อนึ่ง ทาง สยท. มีมติว่า การประกาศราคายางของ กยท. ควรเรียงลำดับจากความสำคัญด้านปริมาณยางที่ผลิตได้เป็นเกณฑ์ จะเห็นว่าปัจจุบัน กยท. ประกาศราคายางแผ่นดิบ ซึ่งปริมาณไม่เกิน 10% ของประเทศเป็นอันดับแรกราคาน้ำยางเป็นอันดับสอง (ถูกต้อง) แต่ยางก้อนถ้วย ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตยางแท่ง ซึ่งมีจำนวนมากถึง ประมาณ 60%
ดังนั้น สยท. จึงมีความเห็นว่าควรจัดเรียงลำดับใหม่ เป็นประกาศราคายางก้อนถ้วยเป็นอันดับแรกน้ำยางสดเป็นอันดับสองและยางแผ่นดิบเป็นอันดับสามและขอเสนอแนะเพิ่มเติมเรื่องการทดสอบหาเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง(%DRC)ในการซื้อขายยางก้อนถ้วยขอให้กยท.สนับสนุนจัดหาเครื่องมือเพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น มากว่าการใช้วิธีประเมินเปอร์เซ็นต์โดยสายตาผู้ซื้อ และในการนี้คณะกรรมการสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยท.) ขอเข้าพบท่านผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เพื่อรับทราบแนวทางการชี้แจงและการแก้ไขปัญหา ตามที่เสนอมานี้ ขอได้กำหนดวันเวลาที่เหมาะสมให้เข้าพบด้วย
“อย่างไรก็ดีทางชาวสวนยาง ก็อยากเห็นทางรัฐมนตรีเกษตรฯ บังคับใช้พรบ.ควบคุมยางฯ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการรักษาเสถียรภาพราคายางของผู้เกี่ยวข้องในเรื่องยางทุกคนทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม เพราะบัญชีพ่อค้ายางต้องบันทึกไว้หมดและตรวจสอบการซื้อจริงขายจริงของพ่อค้าแต่ละรายว่าราคายางที่ขายล่วงหน้าราคาเท่าไร และตรวจสต็อกยาง กับความไม่ชอบมาพากล มาอ้างสหรัฐอเมริกาไม่สมเหตุสมผลเลย “ นายอุทัย กล่าวย้ำในตอนท้าย
อนึ่ง เปิดรายชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมกรควบคุมยาง