ชง นายกฯ เจรจาจีนผ่อนปรนนำเข้าทุเรียนแสนล้าน คาดหลังสงกรานต์ล้นตลาด

วันที่ 9 เมษายน 2568 นายศักดินัย นุ่มหนู ประธานคณะ กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ ได้นำคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด พร้อมด้วยผู้แทนจากสมาคมทุเรียนไทย และสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก  ต้องการจะสื่อสารประเด็นปัญหาของชาวสวนทุเรียน ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจบริหารจัดการปัญหาให้ชาวสวนทุเรียน เพราะวันนี้พี่น้องชาวสวนทุเรียนยังไม่เห็นถึงความตั้งใจ และความใส่ใจของนายกรัฐมนตรีต่อปัญหาดังกล่าว สถานการณ์นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ทางการจีนประกาศคุมเข้มสาร BY2 และแคดเมียม ทำให้ชาวสวนทุเรียนมีความวิตกกังวล เมื่อมีการปิดแล็บ จากที่มี 8 แล็บ เหลือเพียง 3 แล็บ ขณะที่มีผลผลิตทุเรียนไม่น้อยกว่า 870,000 ตัน ที่จะออกสู่ตลาด

สถานการณ์ในวันนี้ชาวสวนทุเรียนมีความกังวลว่าจะส่งออกไปยังประเทศปลายทางไม่ จึงอยากให้รัฐบาลนำเรื่องนี้นี้ไปพิจารณา และมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่เห็นการขับเคลื่อนอย่างจริงจังจากรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จึงทำให้ชาวสวนทุเรียนมีความวิตกกังวลว่าจะไม่สามารถส่งออกทุเรียนได้ ทำให้หลายล้งระงับการซื้อไว้ก่อน  จึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี มีมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โดยเฉพาะ การตรวจสารตกค้าง BY2  ที่ปัจจุบันต้องตรวจทั้งเปลือกและเนื้อโดยใช้ค่ามาตรฐาน ซึ่งค่ามาตรฐานนี้ยังไม่มีมีการกำหนดอย่างแน่ชัด จึงอยากเสนอให้นายกรัฐมนตรีพูดคุยเจรจาเรื่องการตรวจสารตกค้าง BY2  เป็น 2 ประเด็น คือ สารตกค้างที่อยู่ในเนื้อ ถ้าอยู่ในเนื้อหากตรวจไม่พบ ขอให้มีผลว่า non detect คือ ไม่พบปริมาณสารตกค้าง และอีกส่วนคือสารตกค้างที่อยู่ที่เปลือก ซึ่งการตกค้างที่เปลือกอาจจะมีการปนเปื้อนจากในหลายขั้นตอนในการทำให้บริเวณเปลือกเป็น  non detect  อาจจะเป็นไปได้ยาก

"ขอให้นายกฯ เจรจากับทางตลาดปลายทางว่าจะมีความเป็นไปได้ไหมว่าจะมีการแยกตรวจระหว่างเปลือกและเนื้อ  ประเด็นที่สองคือ  ในกรณีที่ทุเรียนของประเทศไทยมีการนำส่งถึงตลาดปลายทางคือด่านของประเทศจีน หากมีการส่งออกไปแล้วไม่พบปริมาณสารตกค้างเกินค่ามาตรฐานแคดเมียมไม่มีการตกค้าง BY2 ขอให้มีการเจรจาเพื่อขอลดปริมาณการสุ่มตรวจจากร้อยละ 100 เป็นตรวจร้อยละ 30 นี่คือ 2 ประเด็นหลักที่จะช่วยทำให้สามารถส่งออกทุเรียนไปสู่ปลายทางได้อย่างรวดเร็วขึ้น"

สำหรับปัญหาความกังวลที่มาพูดในวันนี้ ได้ส่งสัญญาณไปยังนายกรัฐมนตรีผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร และกลไกของ กมธ. เพื่อให้รัฐบาลแก้ไข หากรัฐบาลยังนิ่งนอนใจ ไม่ขยับอะไร อาจจะเจอต้องเผชิญหน้ากับพายุลูกหนามจากเกษตรกรชาวสวนทุเรียน จึงขอส่งเสียงไปยังผู้นายกฯ ให้รีบเข้ามาดูสถานการณ์นี้ เพราะการผลิตทุเรียนต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง หากวันนี้ไม่สามารถส่งออกได้ จะเป็นความเดือดร้อนอย่างมหันต์ของพี่น้องชาวสวนทุเรียน หวังว่าเสียงที่พวกเราได้สะท้อนในวันนี้จะได้รับการพิจารณาอย่างเร่งด่วนเพื่อดำเนินการแก้ไขเพราะหลังสงกรานต์นี้ผลผลิตจำนวนมากเริ่มที่จะทยอยออกสู่ตลาดตลาดต่างประเทศแล้ว หากไม่สามารถส่งออกได้ย่อมไม่เป็นผลดีกับพี่น้องเกษตรกรและรัฐบาลอย่างแน่นอน